ผู้แต่ง :: กิตติพงศ์ ดารักษ์
ความโดยย่อ
ตอนป่าหิมพานต์ เป็นการกล่าวถึงปฏิสนธิของพระนางผุสดี พระเวสสันดร พระชาลี พระกันหา ไปจนถึงพราหมณ์เมืองกลิงครัฐ ๘ คน มาทูลขอพญาช้างปัจจัยนาคหรือปัจจัยนาเคนทร์จากพระเวสสันดร เป็นเหตุให้ชาวพระนครเชตุดรไม่พอใจ พากันชุมนุมประท้วงและเข้ากราบทูลพระเจ้าสญชัยให้เนรเทศพระเวสสันดรไปอยู่เขาวงกต
เมื่อผุสดีเทพธิดาจุติจากสวรรค์มาอุบัติที่เมืองมนุษย์ พระนางมีพระสิริโฉมงดงามและได้เป็นพระมเหสีของพระเจ้าสญชัยกษัตริย์ผู้ครองนครเชตุดร แคว้นสีพี สมดังพรที่ทูลขอต่อพระอินทร์ เมื่อพระนางทรงพระครรภ์ครบ ๑๐ เดือน วันหนึ่งพระนางผุสดีขอพระราชานุญาตพระเจ้าสญชัย ประพาสพระนคร เมื่อขบวนเสด็จผ่านไปถึงตรอกทางของเหล่าพ่อค้าพระนางเกิดประชวรพระครรภ์ และประสูติพระราชโอรสกลางตรอกนั้น ด้วยเหตุนี้ พระราชโอรสจึงได้พระนามว่า "เวสสันดร" ในวันที่พระราชโอรสประสูติ พญาช้างตระกูลฉัททันต์ก็ได้ตกลูกช้างเผือกขาวบริสุทธิ์หนึ่งเชือกในโรงช้างต้น นับเป็นช้างเผือกคู่บารมี จึงได้ตั้งชื่อว่า "ปัจจัยนาเคนทร์"
พระราชกุมารเวสสันดร ทรงมีพระนิสสัยบริจาคทานตั้งแต่ทรงพระเยาว์ กล่าวคือ ทรงปลดปิ่นทองคำ และเครื่องประดับอันมีค่าให้แก่นางสนมกำนัลทั่วทุกคนถึง ๙ ครั้ง เมื่อทรงเจริญชันษาได้ ๙ ปี ก็ทรงตั้งจิตอธิษฐานว่าจะบริจาคเลือดเนื้อ และดวงหทัยเพื่อมุ่งพระโพธิญาณในกาลข้างหน้าอย่างแน่วแน่ ครั้นได้ชันษา ๑๖ ปี พระองค์ทรงศึกษาสรรพวิทยาจนแตกฉานในศิลปวิทยา ๑๘ แขนง และเสด็จขึ้นครองราชย์และอภิเษกกับพระนางมัทรี พระราชธิดาของกษัตริย์ราชวงศ์มัททราช ต่อมาพระเวสสันดรและพระนางมัทรี มีพระโอรสกับพระธิดาพระนามว่า "ชาลีกุมาร" หมายถึงห่วงทองบริสุทธิ์ และ "กัณหากุมารี" เพราะพระญาติรับพระองค์ตอนประสูติด้วยหนังหมี
ต่อมาไม่นาน เมืองกลิงครัฐเกิดกลียุค ฝนแล้งผิดฤดูกาลข้าวยากหมากแพงเป็นที่ยากเข็ญทุกข์ร้อนไปทั่วเมือง ชาวนครได้มาชุมนุมร้องทุกข์หน้าพระราชวังกันแน่นขนัด พระเจ้ากลิงคราชจึงทรงถือศีล ๗ วัน เพื่อขอบุญกุศลช่วยให้พ้นจากภัยพิบัติ และทรงประกอบพิธีขอฝน แต่ฝนก็ยังแล้งหนัก เหล่าอำมาตย์มนตรีจึงทูลให้ทรงขอช้างเผือกแก้วปัจจัยนาเคนทร์ของพระเวสสันดร ด้วยว่าพระเวสสันดรกษัตริย์แห่งนครเชตุดรนั้นทรงช้างคู่บารมีไปหนแห่งใด ก็บันดาลให้มีฝนโปรยปรายชุ่มชื้นไปทั่วแคว้น
เมื่อเป็นเช่นนั้น พระเจ้ากลิงคราชจึงส่งพราหมณ์ ๘ คน ไปทูลขอช้างปัจจัยนาเคนทร์จากพระเวสสันดรฝ่ายพระเวสสันดรเมื่อทราบเหตุความเดือดร้อนดังกล่าวแล้วพระองค์จึงประทานช้างปัจจัยนาเคนทร์ให้แก่พราหมณ์เมืองกลิงครัฐ เมื่อชาวนครเชตุดรเห็นช้างพระเวสสันดรต่างก็พากันเข้าล้อม และตะโกนด่าทอจะทำร้ายพราหมณ์ทั้ง ๘ คน แต่พราหมณ์ตวาดตอบว่า พระเวสสันดรประทานช้างให้พวกตนแล้ว เมื่อพราหมณ์นำช้างแก้วไปถึงเมือง ฝนฟ้าก็ โปรยปรายลงมาเป็นที่ยินดีแก่ชาวกลิงครัฐเป็นยิ่งนัก
แต่ในกรุงเชตุดรนั้นกลับอลหม่าน มหาชนต่างมาชุมนุม
ที่หน้าพระลานร้องทุกข์ต่อพระเจ้ากรุงสัญชัยว่า พระเวสสันดร
ยกพญาช้างคู่บ้านเมืองให้คนอื่น ๆ ถือว่าผิดราชประเพณีเกรงว่า
อีกต่อไปภายหน้าอาจยกเมืองให้คนอื่นก็ได้ จึงขอให้ทรงเนรเทศ
พระเวสสันดรออกจากนครเสีย
ข้อคิด ตอนป่าหิมพานต์ หรือกัณฑ์หิมพานต์
๑. คนดีเกิดที่ไหนไม่สำคัญ แต่สำคัญอยู่ที่ทำดีหรือเปล่า
๒. การเสียสละแบ่งปันเป็นหัวใจของการสร้างสรรค์สังคม
๓. การทำดีบางครั้งอาจมีอุปสรรค
๔. ความเห็นแก่ตัว เป็นภัยอันยิ่งใหญ่ของการอยู่ร่วมกัน
๕. การเลือกคู่ครองที่ดีให้ดูมัทรีเป็นแบบอย่าง ไม่หลงระเริงในยามสุข ไม่ละเลยคู่ทุกข์ในยามยาก
(โปรดติดตามตอนต่อไป)