www.weipinxgt.com www.hdf598.com www.rzkfqcg.com www.ywd100.com www.gzunitrade.com www.5aziyuan.com www.alsclean.com www.ynzsgc.com www.sdldtg.com www.i-sarima.com www.aijianbing.com www.xushiweigou.com www.haoyulongsp.com www.binqimotor.com www.kenminamipainting.com www.erli30.com www.cdhg88.com www.horse-home.com www.myjxzp.com www.dgselling.com www.chenlongjiancai.com www.zhongkuanwuliu.com www.huameide-sz.com www.shouxitongban.com www.scgcjx0207.com www.qdshengqian.com www.3w800.com www.kl-ad.com www.imshenghuo.com www.xxanlhw.com www.hfkaibo.com www.wlwservice.com www.jxguanghua.com www.zkld2009.com www.duanem.com www.hzwjzs.com www.chdlav.com www.lyxszl.com www.xinlaihuijiaju.com www.hrwholecare.com www.yingyang168.com www.honeywell-lk.com www.yushusanjiangyuanbao.com www.kangningyiyuan.com www.xzkjsxx.com www.jztushuguan.com www.gksswh.com www.jakjxx.com www.yyxlzw.com www.dwdzxx.com www.shszjzx.com www.skf-nsk-fag-ntn.com www.shanghailvhua.com www.yomandoors.com www.wenchengvote.com www.cn-sportsprotectors.com www.fuyixuantc.com www.jiayongdiant.com www.reshousuoj.com www.wuxitianzhile.com www.lsallx.com www.ravor-system.com www.jhbrq.com www.mirrvoll.com www.likekiwi.com www.hbclzqcj.com www.cqqfbxgm.com www.nmgdwjlw.com www.zmdjtzfw.com www.xunchengchaju.com www.gssx-pxgl.com www.sha-jing.com www.zysjmbj.com www.131701.com www.tlyhyy.com www.hbfbfz.com www.hljpadm.com www.fenxiangzhuan005.com www.jv001.com www.ruiyucnc.com www.zhuochenglaser.com www.zhaoshudeng.com www.facebook-france.com www.yuxianchu.com www.139yes.com www.lazonaentertainment.com www.eastofedens.com www.latelier-gourmet.com www.kaisyomaru.com www.tenglonghb.com www.bdsmfreevids.com www.gzshbzw.com www.ymgb0991.com www.setonohanayome.com www.attachmentmoms.com www.njmzyjg.com www.hi4r.com www.exotic-nails.com www.ef25.com www.lslcxx.com
บทความวิชาการ
สภาไทย สภาพุทธ: จุดเริ่มต้นแห่งสันติสุข
15 พ.ย. 59 | พระพุทธศาสนา
2235

ผู้แต่ง :: พระมหาหรรษา ธมฺมหาโส, รศ.ดร.

สภาไทย สภาพุทธ: จุดเริ่มต้นแห่งสันติสุข

พระมหาหรรษา ธมฺมหาโส, รศ.ดร. (2556)

http://www.komchadluek.net/detail/20130822/166423/สภาไทยสภาพุทธจุดเริ่มต้นสันติสุข.html

        เมื่อวันที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๕๖ รับนิมนต์จาก ศ.ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า ไปบรรยายให้แก่ข้าราชการเมือง ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้เชี่ยวชาญและผู้ชำนาญการประจำตัวของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกรัฐสภาจำนวนเกือบ ๑๐๐ ท่าน ณ สถาบันพระปกเกล้าในหัวข้อ "คุณธรรมและจริยธรรมสำหรับนักการเมืองไทย" อนึ่ง ผู้ชำนาญการบางส่วนที่เข้ารับฟังนั้น เป็นผู้เชี่ยวชาญประจำตัว สส. สามารถ ราชพลสิทธิ์ และ สส.ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ซึ่งเคยเรียนร่วมกันในหลักสูตร ปปร. รุ่นที่ ๑๕ สถาบันพระปกเกล้า เมื่อสองปีที่แล้ว สังเกตเห็นว่า สส. ทั้งสองท่านเป็นนักการเมืองอาชีพที่นุ่มนวล รักเคารพ และให้เกียรติซึ่งกันและกันเสมอ

        เนื้อหาที่เป็นสาระสำคัญบางส่วนได้พยายามนำเสนอเพื่อเป็นข้อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ คือ "การทำสภาให้เป็นสภาในความหมายที่แท้จริง" เพราะคำว่า สภาในความหมายที่แท้นั้น หมายถึง สถานที่ที่สัปบุรุษหรือคนดีมาร่วม พบปะ พูดคุย แลกเปลี่ยนข้อคิด ประสบการณ์และความเห็นเพื่อหาทางออกในฐานะกัลยาณมิตร ดังที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสในโขมทุสสสูตร สังยุตตนิกาย สคาถวรรคว่า "เนสา สภา ยัตถะ นะ สันติ สันโต" แปลว่า "ที่ประชุมใดไม่มีสัปบุรุษ ที่ประชุมนั้นไม่เรียกว่าสภา" และพระองค์ได้ตรัสเพิ่มเติมว่า "สันโต น เต เย น วทันติ ธัมมัง" แปลว่า "คนเหล่าใด ไม่กล่าวธรรม คนเหล่านั้น ไม่ชื่อว่า คนสงบ" หมายความว่า สภานอกจากจะเป็นสถานที่คนดีที่ได้รับเลือกจากประชาชนให้เข้าไปทำหน้าที่ในสภา เพื่อสร้างคุณประโยชน์ให้แก่ชาติบ้านเมืองด้วยการพูดคุยเพื่อออกกฎเกณฑ์สำหรับใช้เป็นหลักในการประพฤติร่วมกันแล้ว สถานที่ดังกล่าวจะต้องเป็นแหล่งในการเสริมสร้าง และบ่มเพาะความสงบสุข และใช้สภาเป็นสถานที่ปรึกษาหารือเพื่อจัดการกับวิกฤติการณ์ต่างๆ ของบ้านเมืองได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

        แม้คำว่า “สัปบุรุษ” หรือ “สัตบุรุษ” แปลว่า “คนดี” หรือ “คนที่มีความสงบ” ในโขมทุสสสูตรจะหมายถึง "คนดีที่มีจิตใจสงบเย็นเพราะไม่ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของราคะ โทสะ และโมหะแล้วพูดจาในสิ่งที่ดี และมีคุณค่าแล้ว ถึงกระนั้น คำว่า "คนดี" ยังครอบคลุมไปถึง “คนที่มีความสงบทางกาย วาจา และใจ” โดยการคิด พูด หรือกระทำสิ่งใดแล้วนำไปสู่ความสงบ ร่มเย็น และเป็นสันติสุข และด้วยเหตุดังกล่าว พระพุทธเจ้าจึงได้วางตัวบ่งชี้เอาไว้ว่า คนที่จะได้ชื่อว่าเป็นสัตบุรุษได้นั้น จะต้องประกอบด้วยตัวชี้วัด ๗ ประการ คือ (๑) ความเป็นผู้รู้จักเหตุ (๒) ความเป็นผู้รู้จักผล ๓) ความเป็นผู้รู้จักตน (๔) ความเป็นผู้รู้จักประมาณ (๕) ความเป็นผู้รู้จักกาลเวลาหรือจังหวะ (๖) ความเป็นผู้รู้จักบริษัทหรือสังคม และ (๗) ความเป็นผู้รู้จักบุคคล

        “เหตุผลไม่จำเป็นต้องถูก แต่สิ่งที่ถูกจำเป็นต้องมีเหตุผล” ข้อที่ ๑ และ ๒ การนำเสนอเหตุผลนั้น ไม่ควรถือเอาแต่อำนาจหรืออารมณ์ของตัวเอง หรือกลุ่มของตัวเองเป็นใหญ่ โดยไม่สนใจเหตุผลของคนอื่น หรือกลุ่มอื่นๆ ความผิดปกติที่เกิดขึ้นคือ หลายครั้ง เหตุผลดีหรือไม่ดีไม่ได้ขึ้นอยู่ที่ตัวเหตุผล แต่อยู่ที่คนนำเสนอเหตุผล ทั้งๆ ที่เหตุผลอาจจะถูกต้อง สมสมัย และเอื้อต่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ แต่เพราะเราไม่ชอบคนที่นำเสนอเหตุผล จึงทำให้เหตุผลนั้นฟังไม่ขึ้นในแง่มุมของเรา

         สรุปแล้ว สภาจึงจุดเริ่มต้นในการเสริมสร้างชีวิตและสังคมเกิดสันติสุข เพราะสถานที่แห่งนี้เป็นจุดศูนย์รวมของคนดีที่มีความสงบ ทั้งทางกาย วาจา และใจ และใช้สภาเป็นสถานที่ระดมข้อคิด ความเห็น รวมไปถึงข้อห่วงใยของพลเมือง ด้วยเหตุและผล ซึ่งตัวตนแต่ละท่านได้ประจักษ์ และรับรู้ผ่านการทำงานในแต่ละพื้นที่ โดยการนำเสนอเหตุผลที่สอดคล้องกับจังหวะเวลา และสอดคล้องกับความต้องการของบุคคล และชุมชน สังคม อย่างไรก็ดี นอกจากสภาจะสะท้อนผู้คนดีที่ทำหน้าที่ในสภาแล้ว สภายังเป็นภาพสะท้อนของหน้าตาพลเมืองไทยต่อพลเมืองโลกด้วย เพราะพลเมืองไทยเป็นผู้ที่เลือกสรรคนดีทั้งหลายเข้าไปทำหน้าที่อยู่สภาในฐานะเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทย ฉะนั้น หน้าตาของคนดีที่อยู่ในสภา คือหน้าตาของพลเมืองไทยต่อพลเมืองอาเซียน และพลเมืองโลก