เมื่อวันเสาร์ที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๕๖ ท่ีผ่านมา โครงการหลักสูตรปริญญาโท สาขาสันติศึกษาเริ่มต้นเพาะเมล็ดพันธุ์สันติภาพให้ผลิดอกออกผล และเจริญงอกงามกลางดวงใจของวิศวกรสันติภาพ จำนวน ๓๕ รูป/คน ณ ห้องสันติภาพ อาคารเรียนรวม วังน้อย อยุธยา นิสิตเหล่านี้ได้ผ่านการปฐมนิเทศและเรียนนอกห้องเรียนครั้งแรก ณ ศูนย์พัฒนาศาสนาแคมป์สน จังหวัดเพชรบูรณ์เมื่อวันที่ ๑-๒ มิถุนายน ๒๕๕๖ รวมถึงการศึกษาดูงานชุมชนสันติในเขตอำเภอหล่มสัก เพื่อให้เข้าใจตั้งแต่เบื้องต้นว่า "สันติภาพมีความจำเป็นต่อการอยู่ร่วมกันของมนุษย์ในฐานะเป็นสัตว์สังคมได้อย่างไร? และการที่มนุษย์และสังคมขาดสันติภาพนั้นนำไปสู่ความทุกข์ทรมานอันเกิดจากการเบียดเบียนและเอารัดเอาเปรียบซึ่งกันและกันอย่างไร?" ดังนั้น สันติภาพจึงไม่ใช่การพูดเพื่อให้เกิดความรู้สึกว่าดูดี หรือโก้หรูแก่คนพูด หรือกลุ่มคนที่พยายามจะเชิดชู ด้วยเหตุนี้ สันติภาพจึงเป็นสิ่งจำเป็นต่อวิถีชีวิต และสังคมในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับครอบครัว ชุมชน สังคม ชาติ และโลกใบนี้
![](/userfiles/image/hansa/hanpeace1.jpg)
สังคมไทยกำลังโชคดีที่นิสิตเหล่านี้ที่พยายามอย่างยิ่งในการอุทิศตัวและอุทิศตน โดยการสละทั้งกำลังทรัพย์ กำลังกาย กำลังใจ และกำลังสติปัญญาเข้ามาศึกษาและเรียนรู้หลักการ และเครื่องมือสำคัญเพื่อนำองค์ความรู้ไปสร้างสันติให้เกิดขึ้นภายในใจตัวเอง และขยายพื้นที่ของสันติไปสู่คนรอบข้าง ครอบครัว องค์กร ชุมชน สังคม และประเทศชาติ จะเห็นว่า หลักสูตรพยายามอย่างยิ่งที่จะเปิดพื้นที่ให้นิสิตเหล่านี้ได้เข้าถึงสันติภาพคือความสงบที่ซ่อนตัวอยู่เงียบๆ ภายในใจของตนเป็นเบื้องต้น โดยการย้ำเตือนว่า สันติภาพที่แท้จริงนั่นเป็นภาวะที่ไร้เงื่อนไข ไร้การต่อรอง และไม่ขึ้นตรงกับตัวแปรหรือปัจจัยต่างๆ ที่พยายามจะเข้ามากำหนด และบงการ การที่จะค้นพบ และเข้าถึงภาวะสันติที่แท้จริงไม่จำเป็นต้องลงทุนเสียเงินเสียทอง งบประมาณจำนวนมาก และไม่ต้องเดินทางไปแสวงหาจากสถานที่อันไกลแสนไกล หากแต่สามารถเริ่มต้นค้นหาได้จากใจของตัวเราเอง
![](/userfiles/image/hansa/hanpeace2.jpg)
เมื่อเราสามารถค้นพบ และสัมผัสสันติภาพที่ซ่อนตัวเงียบๆ อยู่ภายในใจ โดยการพัฒนาดอกบัวซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งการรู้ ตื่น และเบิกบานอยู่ในใจของเราแล้ว เราจึงเริ่มขยายพื้นที่ดอกบัวโดยการหยิบยื่นภาวะการรู้ ตื่น และเบิกบานให้ไปบานอยู่ในใจของคนอื่นๆ ที่อยู่รอบข้างต่อไป การหยิบยื่นดอกบัวคือภาวะของการรู้ ตื่น และเบิกบานให้แก่หมู่ชนจำนวนมากได้อย่างมีประสิทธิผลนั้น จำเป็นต้องเรียนรู้หลักการและกระบวนการ รวมถึงเครื่องมือต่างๆ จากครูอาจารย์ที่เป็นกัลยาณมิตรผู้ที่ผ่านการเรียนรู้ และเข้าสู่กระบวนการนี้มาก่อน อีกทั้งเรียนรู้ผ่านนักสันติภาพจากศาสนาต่างๆ องค์กร และผู้นำทางจิตวิญญาณที่อุทิศตัวมนุษยชาติอย่างมีขันติธรรมโดยไม่ท้อแท้ต่อปัญหา และอุปสรรคต่างๆ ที่เข้ามากระทบและท้าทายต่อจิตวิญญาณ
![](/userfiles/image/hansa/hanpeace3.jpg)
ในเบื้องต้นนิสิตเหล่านี้จึงจำเป็นต้องเรียนรู้แนวคิด ทฤษฏี และแนวปฏิบัติต่างๆ เช่น แนวคิดสันติภาพ ประวัติและพัฒนาการความขัดแย้งในโลกสมัยใหม่ วิธีวิทยาว่าด้วยสันติศึกษา พระพุทธศาสนาเพื่อสันติภาพ พุทธสันติวิธี การไกล่เกลี่ยคนกลาง สันติสนทนา ขันติธรรมทางศาสนา และองค์กร ผู้นำทางศาสนา และการเมืองที่ทำงานด้านสันติภาพระหว่างประเทศ การเรียนรู้หลักการและเครื่องมือเหล่านี้จะไปสัมพันธ์กับการปฏิบัติจริงในหน่วยของศาลต่างๆ รวมถึงสถานการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในชุมชนและสังคมที่นิสิตเหล่านี้จะเข้าไปเรียนรู้ และปฏิบัติงานจริงในฐานะวิศวกรสันติภาพ
![](/userfiles/image/hansa/hanpeace4.jpg)
เชื่อมั่นว่า นิสิตเหล่าจะกลายเป็นความหวังให้แก่ชุมชน องค์กรต่างๆ สังคม และประเทศชาติต่อการเข้าไปร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นด้วยความเสียสละ และอดทน อีกทั้งนิสิตเหล่านี้จะกลายเป็นแม่แบบที่สำคัญต่อการสร้างแรงบันดาลให้แก่วิศวกรสันติภาพรุ่นต่อๆ ไป ที่มุ่งหวังจะอุทิศตัวและอุทิศตนเป็น "พระโพธิสัตว์" ที่เปี่ยมล้นด้วยองค์ธรรม "สุทธิ ปัญญา เมตตา และขันติ" พัฒนาชีวิตตนเองให้รู้ ตื่น และเบิกบาน และนำหมู่ชนจำนวนมากให้เข้าถึงคุณลักษณะดังกล่าว การสร่างสันติภาพแม้อาจจะมองว่าเป็นสิ่งที่สร้างได้ยาก และใช้เวลาเนิ่นนาน แต่การเริ่มต้น และจุดประกายให้เกิดขึ้นในมุมเล็กๆ ของโลกใบนี้ จะก่อให้เกิดพลังที่เข้มแข็งและเบ่งบานในปัจจุบัน และอนาคต และการเริ่มต้นสร้างสันติภาพในชุมชน สังคม และประเทศชาตินั้นควรเริ่มต้นในทุกวินาที การเริ่มต้นที่ดีที่สุดนั้นอย่ามุงหวังไปเรียกร้อง หรือขอร้องจากคนอื่นใด แต่ควรเริ่มต้นจากใจของเราเอง และนิสิตหลักสูตรนี้ได้เริ่มต้นจุดประกายขึ้นในใจของตัวเองแล้ว แล้วท่านทั้งหลายที่เดินทางผ่านมาและผ่านไปได้เริ่มต้นบ่มเพาะสันติภาพให้เบ่งบานในใจตัวเองแล้วหรือยัง?!?!
ดูรายละเอียดของโครงการปริญญาโทสันติศึกษาได้ที่
www.ps.mcu.ac.th
|