เพาะพันธุ์ยุวชน "รักษาต้นไม้ รักษาใจ รักษาโลก"
12 มิ.ย. 56 | ข่าวมหาวิทยาลัย
176
|
ข่าวมหาวิทยาลัย |
|
เพาะพันธุ์ยุวชน "รักษาต้นไม้ รักษาใจ รักษาโลก" |
วันที่ ๑๒/๐๖/๒๐๑๓ |
เข้าชม : ๒๙๒๒ ครั้ง |
"ปลูกต้นไม้ ดูแล รักษา พรวนดินให้เป็นปอดของคนทั้งโลก ปลูกและบ่มเพาะเมล็ดพันธ์แห่งสันติภาพแก่ยุวชนให้เจริญงอกงามเพื่อให้โลกได้สัมผัสลมหายใจแห่งสันติสุข ไม่ว่าคนหรือต้นไม้ล้วนต้องอาศัยพลังแห่งสันติ รักษาต้นไม้คราวใด ประดุจดังการรักษาลมหายใจของมนุษยชาติ เพื่อให้โลกใบนี้เต็มไปด้วยความชุ่มเย็นอันเกิดจากการภาวะความเป็นหนึ่งเดียวระหว่างลมหายใจของมนุษย์กับลมหายใจของต้นไม้"
![](/userfiles/image/hansa/hansa909.jpg)
จารึกธรรมนี้เกิดขึ้นจากการกลับมาทำหน้าที่เพื่อตอบแทนบ้านเกิดในโอกาส "พี่นำน้องประคองสันติสุข" ในงานค่ายคุณธรรมปฐมนิเทศก่อนเปิดภาคเรียนชั้นปฐมศึกษา ตั้งแต่. ป.๑ ถึง ป.๖ ณ โรงเรียนบ้านท่าคอยนาง อ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ ตลอดเวลาที่ทำหน้าที่ดูแลน้องๆ ประคองใจเพื่อก้าวเดินไปสู่เส้นทางแห่งสันตินั้น ทำให้พบความจริงที่น่าสนใจว่า "การบ่มเพาะและปลูกต้นไม้แห่งสันตินั้นควร และเหมาะอย่างยิ่งที่จะทำตั้งแต่เยาว์วัย ประดุจการปลูกต้นไม้ตั้งแต่ต้นเล็กๆ จะทำให้รากมั่นคง และหากเผชิญกับพายุหนักๆ ย่อมสามารถที่จะทานแรงลมได้ไม่ให้โค่นล้มในระยะเวลาอันรวดเร็ว"
![](/userfiles/image/hansa/hansa900.jpg)
"ศีลธรรมของยุวชนคือสันติภาพของโลก" พุทธทาสภิกขุได้ย้ำในประเด็นนี้มากว่า ๖๐ ปี ภายหลังที่ท่านตกผลึกจากการทำงานด้านนี้ และเข้าใจอย่างแจ่มชัดว่า "การที่โลกจะมีสันติภาพอย่างยั่งยืนได้นั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพัฒนาสันติภาพตั้งแต่เยาว์วัย" เพราะเยาวชนหมายถึงผู้ที่ยังอ่อนทั้งความคิด ความเข้าใจต่อโลกและชีวิต การปลูกฝังศีลธรรมตั้งแต่ยุวชนจึงเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันทางใจให้มีท่าทีต่อเพื่อนมนุษย์ในการอยู่ร่วมกับผู้อื่นด้วยการรักและเคารพ อีกทั้งพร้อมที่จะอดทนรับฟัง หรืออยู่ร่วมกับคนอื่นที่มีความคิด ความเชื่อที่แตกต่างจากเราได้อย่างมีขันติธรรม
ด้วยเหตุดังกล่าว ส่วนตัวจึงมีความเชื่อว่า "สันติภาพของยุวชนคือจุดเริ่มต้นของสันติภาพโลก" เมื่อใดก็ตามที่เราจุดพลังสันติภาพ หรือบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์สันติภาพให้เจริญงอดงาม และผลิบานในใจของเด็กๆ แล้ว เมื่อนั้นเมล็ดพันธุ์แห่งสันติภาพในใจเด็กก็จะเติบใหญ่พร้อมๆ กับร่างกายของเด็กที่เจริญเติบโตขึ้นทุกวัน เมื่อใดเมล็ดพันธุ์แห่งสันติภาพงอกงามในใจเด็ก เมื่อนั้นลมหายใจของเด็กๆ ก็จะเป็นลมหายใจแห่งสันติสุข ซึ่งเป็นลมหายใจแห่งการรู้ตื่นและเบิกบาน เมื่อหายใจออกในที่แห่งใด คนข้างเคียงเขาเหล่านั้นก็จะได้มีโอกาสสุดดมลมหายใจแห่งสันติภาพคราวนั้น ฉะนั้น การบ่มเพาะเมล็ดแห่งสันติจึงมีค่าเท่ากับการเปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้หว่านเมล็ดพันธุ์ดังกล่าวสู่สังคมทั้งในระยะสั้นและระยะยาวต่อไป
"ทุกย่างก้าวเล็กๆ ของยุวชน จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างสันติภาพอย่างยิ่งใหญ่ในปัจจุบัน และอนาคต" ขอเพียงเราช่วยกันประคับประคองทุกย่างก้าวของยุวชนให้อุดมไปด้วยคุณค่าและความหมาย แม้บางครั้งอาจจะเดินสะดุดบ้าง ช้าบ้าง สับสนบ้าง แต่หากเราช่วยกันนำทาง และส่องแสงสว่างเพื่อให้ยุวชนได้เห็นเส้น และกล้าที่จะก้าวเดินไปด้วยความหวัง มั่นคงและมั่นใจในเส้นทางที่เลือกเดิน ไม่หวาดระแวงและสงสัย เชื่อมั่นว่า ก้าวย่างเล็กๆ ที่ไม่ค่อยมั่นใจจะกลายเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ต่อโลกในอนาคต และความอยู่รอดของโลกอย่างยั่งยืนจะเกิดขึ้นได้อย่างไร?!? ถ้าเราไม่อาศัยย่างก้าวเล็กๆ เหล่านี้
ทั้งนี้ คำตอบจึงกลับมาอยู่ที่ว่า "เราจะส่งต่อโลกของเราเอาไว้ให้เด็กๆ ของเราช่วยดูแลต่ออย่างไร!?!" หากเราส่งต่อโลกที่เต็มไปด้วยความเร้าร้อนที่บ่มเพาะเชื้อแห่งความโกรธ เกลียด เคียดแค้น และชิงชังใส่มือเขา นอกเหนือจากความร้อนที่จะแผดเผายุวชนของเราในปัจจุบันและอนาคตแล้ว เขาเหล่านี้ก็จะรับเชื้อแห่งความเกลียดชังไปเก็บและขังเอาไว้ในใจ ขยายพื้นที่ความเกลียดชัง และทำลายล้างซึ่งกันและกันอย่างไร้จุดบรรจบ
การช่วยกันขยายเมล็ดพันธุ์แห่งสันติภาพของเด็กๆ ตั้งแต่เยาว์วัย จึงเป็นการช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่เด็กๆ ได้เจริญเติบโตทั้งวัย และลมหายใจแห่งสันติในขณะเดียวกัน และเมื่อถึงเวลาหนึ่ง โลกของเราจะกลายเป็นโลกที่น่าอยู่อาศัยมากยิ่งขึ้น เพราะเด็กๆ จะร่วมกันรักษา บ่มเพาะ พรวนดิน รดน้ำต้นไม้ พร้อมๆ กับการักษาหายใจให้รู้ ตื่น และบานบาน ผสานสรรพสิ่งให้ประสมกลมเกลียว ทั้งชีวิต ต้นไม้ และโลกของเรา บนฐานของความคิด และความเชื่อที่ว่า "ลมหายใจของเรากับลมหายใจของต้นไม้ล้วนเป็นหนึ่งเดียวกัน"
ลิงค์ http://www.komchadluek.net/detail/20130609/160595/เพาะพันธุ์ยุวชนรักษาต้นไม้รักษาใจรักษาโลก.html |
แหล่งข่าว : ส่วนเทคโนโลยีสารสนเทศ |
|