www.weipinxgt.com www.hdf598.com www.rzkfqcg.com www.ywd100.com www.gzunitrade.com www.5aziyuan.com www.alsclean.com www.ynzsgc.com www.sdldtg.com www.i-sarima.com www.aijianbing.com www.xushiweigou.com www.haoyulongsp.com www.binqimotor.com www.kenminamipainting.com www.erli30.com www.cdhg88.com www.horse-home.com www.myjxzp.com www.dgselling.com www.chenlongjiancai.com www.zhongkuanwuliu.com www.huameide-sz.com www.shouxitongban.com www.scgcjx0207.com www.qdshengqian.com www.3w800.com www.kl-ad.com www.imshenghuo.com www.xxanlhw.com www.hfkaibo.com www.wlwservice.com www.jxguanghua.com www.zkld2009.com www.duanem.com www.hzwjzs.com www.chdlav.com www.lyxszl.com www.xinlaihuijiaju.com www.hrwholecare.com www.yingyang168.com www.honeywell-lk.com www.yushusanjiangyuanbao.com www.kangningyiyuan.com www.xzkjsxx.com www.jztushuguan.com www.gksswh.com www.jakjxx.com www.yyxlzw.com www.dwdzxx.com www.shszjzx.com www.skf-nsk-fag-ntn.com www.shanghailvhua.com www.yomandoors.com www.wenchengvote.com www.cn-sportsprotectors.com www.fuyixuantc.com www.jiayongdiant.com www.reshousuoj.com www.wuxitianzhile.com www.lsallx.com www.ravor-system.com www.jhbrq.com www.mirrvoll.com www.likekiwi.com www.hbclzqcj.com www.cqqfbxgm.com www.nmgdwjlw.com www.zmdjtzfw.com www.xunchengchaju.com www.gssx-pxgl.com www.sha-jing.com www.zysjmbj.com www.131701.com www.tlyhyy.com www.hbfbfz.com www.hljpadm.com www.fenxiangzhuan005.com www.jv001.com www.ruiyucnc.com www.zhuochenglaser.com www.zhaoshudeng.com www.facebook-france.com www.yuxianchu.com www.139yes.com www.lazonaentertainment.com www.eastofedens.com www.latelier-gourmet.com www.kaisyomaru.com www.tenglonghb.com www.bdsmfreevids.com www.gzshbzw.com www.ymgb0991.com www.setonohanayome.com www.attachmentmoms.com www.njmzyjg.com www.hi4r.com www.exotic-nails.com www.ef25.com www.lslcxx.com
ข่าวประชาสัมพันธ์
วิศวกรสันติภาพ'มจร'พบพุทธวิธีแก้ขัดแย้งการเมืองไทย
10 ก.พ. 57 | ข่าวมหาวิทยาลัย
244
ข่าวมหาวิทยาลัย
วิศวกรสันติภาพ'มจร'พบพุทธวิธีแก้ขัดแย้งการเมืองไทย
วันที่ ๑๐/๐๒/๒๐๑๔ เข้าชม : ๓๓๑๘ ครั้ง

วิศวกรสันติภาพ'มจร'ท่องแดนพุทธภูมิ พบวิธีแก้ปมความขัดแย้งการเมืองไทย : สำราญ สมพงษ์รายงาน(FB-samran sompong)

               ขณะนี้สังคมไทยยังมองไม่เห็นแนวทางแก้ปมขัดแย้งทางการเมืองไทย อันเกิดจากความเห็นสุดขั้ว 2 กลุ่มคือ ต้องเลือกตั้งก่อนปฏิรูปการเมือง ยึดประชานิยมเป็นสรณะ ภายใต้การนำของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับกลุ่มที่ต้องการปฏิรูปการเมืองก่อนการเลือกตั้งภายใต้การนำของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกปปส.ได้นำมวลมหาประชาชนออกมาชุมนุมประท้วงการบริหารงานของกลุ่ม แรก อันมีมูลเหตุมาจากต้องการออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จนบานปลายเป็นไล่ระบบทักษิณถึงขั้นปิดกรุงเทพมหานครตั้งแต่วันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่าน ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก สร้างความเสียหายทางโอกาสด้านต่างๆอีกมากมาย

               ช่วงที่การเมืองไทยมีความวุ่นวายอยู่นี้เอง ได้มีโอกาสปลีกวิเวกร่วมคณะนิสิตปริญญาโทสันติศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) รุ่นที่ 1 (และกำลังรับสมัครรุ่นที่ 2) ตามโครงการ "จาริกสันติธรรม สู่ดินแดนแห่งพุทธภูมิ" ประเทศอินเดีย-เนปาล จำนวน 40 รูป/คน ระหว่างวันที่ 16-26 มกราคมที่ผ่านมา ภายใต้การนำของพระมหาหรรษา ธมฺมหาโส ผู้อำนวยการหลักสูตรดังกล่าว  

               ทั้งนี้มองเห็นว่า สังคมโลกในยุคโลกาภิวัตน์นั้น เป็นสังคมที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งและความรุนแรงในหลายมิติด้วยกัน กล่าวคือ ด้านค่านิยม ทัศนคติ ภาษา ศาสนา ความต้องการ ผลประโยชน์ และกลุ่มชาติพันธุ์ ที่พยายามจะดำรงและรักษาความเป็นอัตลักษณ์ และผลประโยชน์ของกลุ่มตัวเองเอาไว้และการที่สังคมโลกไม่สามารถที่จะแสวงหา ความสมดุลในโลกแห่งความแตกต่างจึงทำให้ความขัดแย้งได้พัฒนาไปสู่ความรุนแรง ในที่สุด

               จากประเด็นปัญหาความขัดแย้ง และความรุนแรงดังกล่าวนั้น จึงทำให้เกิดการแสวงหาทางเลือกเพื่อนำมาฟื้นฟูและเยียวยาความขัดแย้งและความ รุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตั้งคำถามและการแสวงหาทางเลือกตามที่ปรากฏอยู่ในพระ พุทธศาสนา  ด้วยเหตุนี้บัณฑิตวิทยาลัย มจร ได้ตระหนักรู้ปัญหาความขัดแย้งและความรุนแรงที่เกิดขึ้นในสังคมไทยและสังคม โลก จึงได้จัดทำหลักสูตรสาขาวิชาสันติศึกษา เพื่อให้ได้มาซึ่งทางเลือกเกี่ยวกับรูปแบบของการฟื้นฟูและเยียวยาความขัด แย้ง อันจะนำไปสู่กระบวนการของการสร้างสันติภาพและความสมานฉันท์แก่ประชาชนและ สังคม ให้สามารถอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขในลำดับต่อไป

               จากพุทธกิจวัตรแห่งพุทธองค์ที่ทรงปฏิบัติทำให้เกิดคุณประโยชน์แก่ชาวโลกทั้ง มวล อันเป็นคุณค่ามหาศาลเพื่อการนี้ การจาริกสู่ดินแดนแห่งพุทธองค์ เป็นการแสวงหาซึ่งธรรม และเป็นการระลึกถึงซึ่งคุณต่างๆ และเพื่อการศึกษา ดูงานในสถานี่สำคัญ สังเวชนียสถาน 4 ตำบล ลุมพินีวัน พุทธคยา สารนาถ กุสินารา และบ้านเกิดมหาตมคานธี อันเป็นบ่อเกิดแห่งพุทธสันติวิธี เพื่อสร้างสันติภาพภายในให้เกิดสันติภายนอกต่อสังคมโดยรวม

               การเดินทางดูงานสังเวชนียสถาน 4 ตำบลของคณะดังกล่าวในครั้งนี้ได้บำเพ็ญขันติและวิริยบารมีขั้นอุกฤษฏ์เนื่อง จากการเดินทางแต่ละจุดนั้นต้องกินเวลานานอย่างน้อย 7 ชั่วโมงสูงสุดนานถึง 13 ชั่วโมง มีทั้งเดินทางด้วยเครืองบิน รถบัสและรถไฟ บางช่วงถนนก็ลุ่มลึก เลนเดียว แต่ก็ไม่เห็นรถชนกันเลยเพราะคนขับอินเดียสติดีมาก บวกกับสภาพอากาศหนาวเย็นต้องต่อสู้กับขันธมารคือร่างกายบางคนสู้ไม่ไหวล้ม ป่วยก็มี แต่คณะก็สามารถฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆเดินทาง "จาริกสันติธรรม" ได้ตามวัตถุประสงค์

               กิจกรรมระหว่าง "จาริกสันติธรรม สู่ดินแดนแห่งพุทธภูมิ" ครั้งนี้ได้พระธรรมทูตประเทศอินเดีย-เนปาลทำหน้าที่เป็นวิทยากรหรือไกด์ บรรยายให้คำแนะนำสถานที่ หลักธรรม มีความเกี่ยวเนื่องกับพระพุทธเจ้าอย่างไร รวมถึงสภาพบ้านเมืองอินเดียและการปฏิบัติตนระหว่างการเดินทาง ทั้งบนรถและตามจุดต่างๆ กิจวัตรที่ปฏิวัติเมื่อเดินทางไปถึงสังเวชนียสถานจุดต่างๆจะมีการไหว้พระทำ วัตรเช้า-เย็น และสวดมนต์บทที่เกี่ยวเนื่อง นั่งสมาธิ และฟังพระวิทยากรบรรยาธรรม

               การบรรยาธรรมของพระวิทยากรนั้นนอกจากจะมีหน้าที่ดังกล่าวข้างต้นแล้ว ยังได้ยกหลักธรรมและเหตุการณ์ที่พระพุทธเจ้าทำหน้าที่ในการแก้ปมความขัดแย้ง ขณะนั้น และได้ยกเหตุการณ์การเมืองไทยที่มีความขัดแย้งขณะนี้ขึ้นมาประกอบด้วย ทั้งนี้เนื่องจากหลักสูตรสาขาวิชาสันติศึกษา มจร นอกจากจะสร้างสันติภายในให้เกิดขึ้นกับผู้เรียนแล้ว  หน้าที่หลักหลังจากจบการศึกษาแล้วนั้นก็คือนำความรู้ไปแก้ปมความขัดแย้งของ สังคมด้วย

               พุทธคยาเป็นจุดแรกที่จาริกสันติธรรมของคณะ เนื่องจากเป็นจุดที่เจ้าชายสิทธัตถะสามารถชนะมารบำเพ็ญเพียรจนสามารถบรรลุ ธรรมเกิดสันติภายใจอย่างถาวร แล้วสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นกับชาวโลกมายาวนานถึง 2,600 ปี โดยไม่ได้ใช้กำลังในแก้ปัญหาความขัดแย้งเลย

               สาเหตุที่เจ้าชายสิทธัตถะสามารถบรรลุธรรมได้นั้นเนื่องจากละความสุดโต่งใน การแสวงหาความสุขทางกายที่เรียกว่า "กามสุขัลลิกานุโยค" โดยการออกบวชและหาทางบรรลุธรรมโดยได้ทดสอบแนวทางสุดโต่งด้วยการทรมานตนที่ เรียกว่า "อัตตกิลมถานุโยค" ถึง 6 ปียังไม่บรรลุธรรม จึงได้หันมาใช้แนวทางแบบสายกลางที่เรียกว่า "มัชฌิมาปฏิปทา" หรือมรรคมีองค์ 8 เริ่มจากความเป็นที่ถูกต้องเป็นต้นจึงได้บรรลุธรรม

               จุดนี้พระวิทยากรได้ยกเหตุการณ์การเมืองไทยที่มีความขัดแย้งกันอยู่ขณะนี้ ที่ยืนอยู่บนทางสุดโต่ง 2 ทางนั้น ยากที่จะทำให้บ้านเมืองสงบได้ จึงจำเป็นต้องใช้ทางสายกลางคือการเจรจา เพราะไม่มีฝ่ายใดจะได้ชัยชนะแบบ 100%  ประกอบกับประชาธิปไตยไทยพัฒนามาเพียง 80 ปีกว่าเท่านั้นยังต้องพัฒนาการไป เพราะประเทศอังกฤษมีการพัฒนามานานตั้ง 800 ปี สหรัฐฯก็นานถึง 200 ปี  และประชาธิปไตยไทยเป็นแบบ "แกงโฮ๊ะ" หยิบเอาประชาธิปไตยจากประเทศต่างๆมาประยุกต์ใช้ซึ่งอาจจะยังไม่ลงตัวก็เป็น ได้ ดังนั้นแนวทางที่ดีที่สุดก็คือต้องมีการประนีประนอมกัน

               จุดที่สองที่คณะจาริกสันติธรรมเดินทางไปคือ "กุสินารา" ซึ่งเป็นสถานที่ปรินิพานของพระพุทธเจ้า สาเหตุที่คณะได้ทางต่อมาที่จุดแห่งนี้ก็เพราะความสะดวกของการเดินทางที่ไม่ ต้องย้อนไปย้อนมา ที่จุดนี้ทำให้ได้ทราบถึงแนวทางของการแก้ปัญหาความขัดแย้งก็คือหลังถวายพระ เพลิงพระบรมศพพระพุทธเจ้าแล้ว เกิดการแย่งพระบรมสารีริกธาตุระหว่างเจ้าแคว้นต่างๆที่พระพุทธเจ้าเดินทางไป เผยแพร่ธรรม ได้โทณพราหมณ์เตือนสติเจ้าแคว้นต่างๆได้เห็นอุดมการณ์ของพระพุทธศาสนาคือไม่ ควรขัดแย้งทำร้ายกันตามที่พระพุทธเจ้าให้ไว้ในวันมาฆบูชา เพราะหากใช้กำลังทำสงครามแย่งชิงพระบรมสารีริกธาตุแล้วย่อมทำให้ประชาชนล้ม ตายเป็นจำนวนมาก เหตุการณ์ครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถของโทณพราหมณ์ที่ใช้หลักของการ แก้ความขัดแย้งเริ่มจากการเจรจา

               จุดที่สามคือสวนลุมพินีวันประเทศเนปาลซึ่งเป็นสถานที่ประสูติ ทาง "ยูเนสโก" ได้ประกาศให้เป็นสถานที่มรดกโลกจุดไฟสันติภาพต่อเนื่องมาแบบไม่ดับ เพราะเห็นความสำคัญของพระพุทธเจ้าที่เป็นตัวอย่างของการสร้างสันติภาพในโลก พร้อมกันนี้ยังได้เห็นพุทธวิธีในการแก้ปัญหาความขัดแย้งจากกรณีที่ชาวนา ระหว่างเมืองสักกะกับวิเทหะที่เป็นพระญาติทั้งสองฝ่ายทะเลาะกันเนื่องแย้ง น้ำทำนา และความขัดแย้งลุกลามไปถึงกษัตริย์ที่ยกชาติพันธุ์มาเป็นชนวน พระพุทธเจ้าได้ใช้วิธีเตือนสติให้เห็นความสำคัญของเลือดมากกว่าน้ำปัญหาจึงยุติ

               และอีกเหตุการณ์หนึ่ง พระเจ้าวิฑูฑภะพระราชโอรสของพระเจ้าปเทนทิโกศลที่เกิดจากนางทาสีที่เจ้าศากย วงศ์ยอมแมวว่าเป็นธิดา มีความโกรธแคว้นเจ้าศากยวงศ์เพราะเหตุดังกล่าว ยกทัพไปปราบ พระพุทธเจ้าได้เสด็จไปเตือนสติถึง 3 ครั้ง แต่ครั้งที่ 4 พระองค์ทรงเห็นว่าทรงห้ามไม่ได้แล้วเพราะเห็นแห่งกรรมเก่าจึงทรงนิ่งเสีย ส่งผลให้พระเจ้าวิฑูฑภะสังหารเจ้าศากยวงศ์จนหมดสิ้น แต่พระองค์เองก็สิ้นพระชมน์ในสายน้ำในเวลาต่อมา เหตุการณ์ครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าพระพุทธเจ้าได้ทำหน้าที่ของพระองค์อย่าง เต็มที่แล้วแม้ว่าจะไม่สามารถก็ปัญหาความขัดแย้งได้ เพราะสัตว์โลกเป็นไปตามกรรม

               จุดที่สี่คือเมืองสาวัตถีเป็นเมืองที่พระพุทธเจ้าจำพรรษานานที่สุด มีหลักธรรมเกิดขึ้นมากมาย และมีพุทธวิธีที่แก้ความขัดแย้งนั้นก็คือความขัดแย้งของพระเมืองโกสัมพีที่ ทะเลาะกันเพราะเรื่องเล็กน้อยแต่ลุกลามใหญ่โตแบ่งเป็นสองฝ่ายชัดเจนเหมือน เมืองไทย เมื่อพระพุทธเจ้าทรงทราบได้ทรงใช้วิธีให้พระทั้งสองกลุ่มเจรจาประนีประนอม กันแต่ไม่เป็นผล อันเป็นสาเหตุให้พระพุทธเจ้าปลีกวิเวกไปจำพรรษาแต่เพียงพระองค์เดียวที่ป่า ปาลิไลยกะมีช้างและลิงคอยดูแล เมื่อเป็นเช่นนี้ทำให้ชาวเมืองโกสัมพีเสียประโยชน์ที่ไม่ได้เฝ้าพระพุทธเจ้า จึงแก้เผ็ดหรือทำลายทิฐิพระด้วยการไม่ใส่บาตรไม่คบค้าสมาคมด้วย ส่งผลให้พระสำนึกผิดแล้วหันมาคือดีกันปัญหาก็ยุติ ที่เมืองนี้เองทำให้ได้ทราบพุทธวิธีในการแก้ปัญหาความขัดแย้งหลายประการ

               จุดที่ห้าคือเมืองสารนาถหรือเมืองพาราณสีซึ่งเป็นเมืองที่พระพุทเจ้าแสดงปฐมเทศนา แต่จุดที่น่าสุดใจตรงนี้ในการแก้ความขัดแย้งนั้นก็คือลูกเศรษฐีชื่อยสะเกิด ความเบื่อหายในการครองเรื่องได้หนีออกจากบ้านแล้วบนไปตลอดทางว่า "วุ่นวายหนอ ขัดข้องหนอ" จนกระทั้งไปพบพระพุทธเจ้าได้ฟังธรรมจนบรรลุธรรมออกบวช ซึ่งถือว่าเป็นการพบความสงบภายใน แล้วพระพุทธเจ้าก็ส่งไปช่วยสร้างสันติให้เกิดขึ้นในสังคมอินเดียต่อไป

               จุดที่หกคือชมพิพิธภัณฑ์มหาตมะ คานธี ตั้งอยู่บนถนน Tees January Marg ใจกลางกรุงนิวเดลี  เมืองหลวงของประเทศอินเดีย       ภายในบริเวณพิพิธภัณฑสถาน ประกอบด้วยบ้านพักที่มหาตมะ คานธีอาศัยอยู่ในช่วง 144  วันสุดท้ายของชีวิต ตั้งแต่วันที่ 9 กันยายน 2490  จนกระทั่งถูกลอบสังหารในวันที่ 30 มกราคม 2491 นิทรรศการแสดงภาพชีวประวัติและเรื่องราวการเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องเอกราช อนุสรณ์สถาน ณ บริเวณที่มหาตมะคานธีเสียชีวิต รูปปั้นมหาตมะ คานธี เปลวเพลิงเป็นเครื่องรำลึกถึงมหาตมะ คานธี กลองสันติภาพ ห้องจัดแสดงตุ๊กตาจำลองเรื่องราวชีวิตของมหาตมะคานธี

               ภายในบริเวณอาคารบ้านพักเป็นที่จัดแสดงสิ่งของเครื่องใช้ส่วนตัวของมหาตมะ คานธี ภาพถ่าย เอกสารต้นฉบับที่เขียนด้วยลายมือของมหาตมะคานธี และเอกสารอื่นๆ รวมถึงภาพยนต์สารคดีที่แสดงถึงชีวประวัติ แนวความคิด และการเคลื่อนไหวเพื่อการเรียกร้องเอกราชของมหาตมะคานธี โดยการใช้เครื่องมือโสตทัศนูปกรณ์และเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการนำเสนอเรื่อง ราวต่างๆ

               การจัดแสดงผลงานของมหาตมะ คานธีในรูปแบบต่างๆนั้น ต้องการสื่อให้เห็นภาพของสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นกับประเทศอินเดียด้วยการ เรียกร้องเอกราชจากประเทศอังกฤษด้วยวิธีการอหิงสาและอารยะขัดขืน และภายในพิพิธภัณฑ์ได้แสดงภาพของพระพุทธเจ้าหลายจุดด้วยกันอันแสดงเห็นว่ามี อิทธิพลต่อความคิดของมหาตมะ คานธีอย่างมากจนสามารถเรียกร้องเอกราชจากประเทศอังกฤษสำเร็จและกำหนดให้วัน ที่ 26 ม.ค.ของทุกปีเป็นวันชาติ อย่างเช่นคำว่า "ฉันไม่สามารถสอนความรุนแรงให้แก่เธอได้ เพราะตัวฉันเองไม่เชื่อมั่นว่าความรุนแรงสามารถแก้ปัญหาได้ ความจริงคือ ตาต่อตาทำให้โลกทั้งโลกมืดบอด"

               ตลอดระยะเวลา 10 วัน 9 คืน ที่ได้มีโอกาสเกาะชายคณะนิสิตปริญญาโทสันติศึกษา มจร ตามโครงการ "จาริกสันติธรรม สู่ดินแดนแห่งพุทธภูมิ" ประเทศอินเดีย-เนปาล  เกือบรอบประเทศอินเดีย ได้ร่วมทำกิจกรรมต่างๆ ส่งผลให้เกิดปีติไม่น้อย เพราะหากไม่ได้คณะนี้ก็ไม่รู้ว่าจะได้มีโอกาสเช่นนี้เมื่อใด นับได้ว่าคณะนิสิตปริญญาโทสันติศึกษา มจร ได้มีส่วนสร้างสันติให้เกิดขึ้นใจจิตใจมากพอสมควร และได้เห็นว่าพระพุทธเจ้าไม่เคยใช้กำลังในการแก้ปัญหาเลย คิดว่าคงจะเป็นแรงกระตุ้นและแนวทางในแก้ปัญหาความขัดแย้งทางเมืองไทยในขณะ นี้ได้ในระดับหนึ่ง

               เมื่อมียาอยู่ในสังคมไทยแล้วอยู่ที่ว่าผู้ป่วยจะกินยาหรือไม่ หรือว่าสังคม(การเมือง)ไทยลืมยาขนาดนี้ไปเสียแล้ว...

ที่มา : คมชัดลึกออนไลน์วันที่ 29-01-2557

 


แหล่งข่าว : ส่วนเทคโนโลยีสารสนเทศ
Print This Page    Sent to Friend
แสดงความคิดเห็น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • มจร จัดพิธีถวายพระพรชัยมงคล และเจริญพระพุทธมนต์ เฉลิมพระเกียรติพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗
    26 ก.ค. 67 | ข่าวมหาวิทยาลัย
    13
  • ขอขอบคุณ ดร.สุวรา นาคยศ อาจารย์ประจำภาควิชาหลักสูตรและการสอน คณะครุศาสตร์ มอบเงินจำนวน 500,000 บาท สนับสนุนโครงการส่งเสริมสุขภาพฯ
    25 ก.ค. 67 | ข่าวมหาวิทยาลัย
    234
  • ขอเชิญลงทะเบียนเข้าร่วมพิธีถวายพระพรชัยมงคลและพิธีเจริญพระพุทธมนต์เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสาเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา ประจำปี พ.ศ.๒๕๖๗
    23 ก.ค. 67 | ข่าวมหาวิทยาลัย
    248
  • การตรวจประเมินคุณภาพการศึกษาภายนอก สมศ. รอบสี่ ระดับอุดมศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
    19 ก.ค. 67 | ข่าวมหาวิทยาลัย
    89
  • องคมนตรี เชิญหิรัญบัฏ พัดยศ ผ้าไตร และเครื่องยศสมณศักดิ์ ถวายแด่ พระพรหมวัชรธีราจารย์ (สมจินต์ สมฺมาปญฺโญ ป.ธ.๙,ศ.ดร.) วัดปากน้ำ พระอารามหลวง
    18 ก.ค. 67 | ข่าวมหาวิทยาลัย
    104