เมื่อเวลา 9.00น. วันพฤหัสบดีที่ 17 เมษายน พ.ศ.2557 ที่ศาลาปฏิบัติธรรม "ชินวงศ์สภา" วัดพิชยญาติการาม กรุงเทพมหานคร สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ กรรมการมหาเถรสมาคม รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) วิทยาเขตบาฬีศึกษาพุทธโฆส นครปฐม เป็นประธานเปิดการการประชุมวิชาการที่มีรายงานการประชุม (Proceedings) นิสิตหลักสูตรพุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิปัสสนาภาวนา ประจำปีการศึกษา 2556 ของศูนย์บัณฑิตศึกษา มจร วิทยาเขตบาฬีศึกษาพุทธโฆส นครปฐม
หลักสูตรพุทธศาสตรมหาบัณฑิต (ปริญญาโท สาขาวิชาวิปัสสนาภาวนา) นี้ เป็นหลักสูตรที่เปิดการเรียนการสอนที่ มจร วิทยาเขตบาฬีศึกษาพุทธโฆส จ. นครปฐม ตั้งแต่ปีการศึกษา 2548 เป็นต้นมา นิสิตที่เรียนในสาขาวิชานี้ นอกจากจะศึกษาตามหน่วยกิตรายวิชาแล้ว ต้องเข้าปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานติดต่อกันเป็นเวลา 7 เดือน จึงจะมีสิทธิ์เสนอสอบวิทยานิพนธ์ และขอจบการศึกษาได้
ทุก ๆ ปีการศึกษาที่ผ่านมา ศูนย์บัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตบาฬีศึกษาพุทธโฆส จ.นครปฐม ได้ดำเนินจัดกิจกรรมโครงการสัมมนาการเขียนวิทยานิพนธ์ เพื่อให้นิสิตหลักสูตรพุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิปัสสนาภาวนา ผู้สอบผ่านโครงร่างวิทยานิพนธ์และลงทะเบียนทำวิทยานิพนธ์แล้ว ได้รับคำปรึกษาแนะนำเทคนิคการเขียนวิทยานิพนธ์ เพิ่มศักยภาพและสร้างแรงจูงใจ ตลอดทั้งติดตามความก้าวหน้าในการเขียนวิทยานิพนธ์ และเป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนความรู้ทางด้านวิชาการระหว่างคณาจารย์กับคณาจารย์ คณาจารย์กับนิสิต และ ระหว่างนิสิตกับนิสิตเอง
รองศาสตราจารย์เวทย์ บรรณกรกุล ในฐานะผู้ควบคุมดูแลการเรียนการสอนหลักสูตรพุทธศาสตรมหาบัณฑิต ปริญญาโท สาขาวิชาวิปัสสนาภาวนา ได้กล่าวว่า โครงการสัมมนาการเขียนวิทยานิพนธ์ เริ่มจัดมาตั้งแต่วันที่ 6 พฤศจิกายน จนถึงวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ.2556 จำนวน 7 ครั้ง ได้จัดให้นิสิตพบอาจารย์ที่ปรึกษา และเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านงานวิจัยทั้งเชิงคุณภาพและปริมาณ ได้มาแนะนำเทคนิคการค้นคว้า การวิเคราะห์ข้อมูล และแนวการเรียบเรียงอภิปรายผล จนนิสิตมีพัฒนาการเขียนวิทยานิพนธ์และสามารถสอบป้องกันวิทยานิพนธ์ สำเร็จการศึกษาระดับมหาบัณฑิตในปีการศึกษา 2556 จำนวน 71 รูป/คน แบ่งเป็น พระภิกษุ 59 รูป แม่ชี 5 ท่าน และคฤหัสถ์ 7 คน
เพื่อให้การจัดการศึกษาหลักสูตรพุทธศาสตรมหาบัณฑิต ปริญญาโทสาขาวิชาวิปัสสนาภาวนา เป็นไปตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ว่าด้ายการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา พุทธศักราช 2541 (ฉบับที่ 1) แก้ไขเพิ่มเติม พุทธศักราช 2553 ข้อ 30.7 วิทยานิพนธ์ในหลักสูตรพุทธศาสตรมหาบัณฑิต จะต้องได้รับการตีพิมพ์ หรืออย่างน้อยดำเนินการให้ทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งของวิทยานิพนธ์ได้รับการยอมรับให้ตีพิมพ์ในวารสารหรือสิ่งพิมพ์ทางวิชาการ หรือเสนอต่อที่ประชุมวิชาการที่มีรายงานการประชุม (Proceeding)
"การประชุมวิชาการที่มีรายงานการประชุม (Proceeding) ในวันที่ 17 เมษายน พ.ศ.2557 นี้ ได้กราบอาราธนานิมนต์และเรียนเชิญผู้ทรงคุณวุฒิภายในมหาวิทยาลัย และผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกมหาวิทยาลัยที่จัดการศึกษาพระพุทธศาสนา เช่น มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นต้น" รองศาสตราจารย์เวทย์ กล่าวและว่า
ในการดำเนินกิจกรรมการประชุมทางวิชาการที่มีรายงานการประชุม (Proceeding) ครั้งนี้ ได้รับความเมตตาให้ใช้สถานที่อาคารชินวงศ์สภา วัดพิชยญาติการาม และได้รับความอุปถัมภ์ภัตตาหารและน้ำปานะ จากพระเดชพระคุณ เจ้าประคุณสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ ตลอดการประชุม
รองศาสตราจารย์เวทย์ กล่าวด้วยว่า การเสนอวิทยานิพนธ์ของนิสิตครั้งนี้เน้นเรื่องการบรรลุธรรมของพระมหาเถรในอดีตเป็นสำคัญ เช่น ศึกษาการบรรลุธรรมของพระอัญญาโกณฑัญญเถระ พระมหากัสสปเถระ ศึกษาเปรียบเทียบการบรรลุธรรมของพระสารีบุตรเถระและพระมหาโมคคัลลานเถระ รวมถึงการศึกษาการปฏิบัติวิปัสสนาภาวนาของสำนักต่างๆ เช่นการศึกษาการปฏิบัติวิปัสสนาภาวนาในคำสอนของพระโพธิญาณเถระ(ชา สุภทฺโท) โดยพระเสริม ปญฺญาสาโร (ใหญ่เยี่ยม)
ทั้งนี้พระเสริมได้สรุปว่า ในคำสอนของหลวงพ่อชาจะกล่าวสอนหลักไตรสิกขาไปตามลำดับ ในส่วนของศีลหลวงพ่อย้ำเตือนว่า "ถ้าเราไม่รักษาพระวินัยเท่ากับเราไม่เราเคารพพระพุทธศาสนา เพราะท่านผู้บัญญัติพระวินัยขึ้นมา ฉะนั้นถ้าไม่รักษาพระวินัยไม่เคารพพระวินัยก็เท่ากับไม่เคารพพระพุทธเจ้า ถ้าเราเคารพพระพุทธเจ้า เราต้องเคารพพระวินัยด้วยการรักษาพระวินัยอย่างเคร่งครัด ถ้าไม่ทำเช่นนี้ก็ไม่รู้จะบวชมาทำไมแล้วจะเกิดประโยชน์อะไรแก่เรา"
อย่างไรก็ตามดร.บรรจบ บรรณรุจิ อดีตอาจารย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นักวิชาการด้านพุทธศาสนา ได้กล่าวนำการเสนอผลงานวิทยานิพนธ์เรื่อง"สมาธิกับการบรรลุธรรมในพระพุทธศาสนา" ว่า การปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานนั้นต้องมีพื้นฐานของสัมมาทิฏฐิและสัมมาสมาธิเป็นสำคัญ
ที่มา; คมชัดลึก 18 เมษายน 57
ข้อมูล; สมหมาย สุภาษิต