ตั้งสนง.เจ้าคณะภาคที่พุทธมณฑล 22 กรกฎาคม 2558 ที่วัดพนัญเชิงวรวิหาร จ.พระนครศรีอยุธยา พระพรหมบัณฑิต (ประยูรธมฺมจิตฺโต) เจ้าอาวาสวัดประยุวงศาวาส อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) กล่าวในการเป็นประธานปิดการประชุมสัมมนาผู้บริหารและบุคลากรทางการศึกษา ประจำปี2558 จัดโดยกองพุทธศาสนศึกษา สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ว่า เรื่องการศึกษาของคณะสงฆ์ เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่อยู่ในแผนการปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนา ซึ่งเมื่อวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแล พศ.ได้เข้าถวายรายงานแผนปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนาที่ผ่านมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว ต่อที่ประชุม มส.ด้วยตนเอง ซึ่งที่ประชุม มส.ก็รับทราบ โดยแผนปฏิรูปดังกล่าวถือว่าเป็นแผนที่เกิดจากการดำเนินงานของ พศ.โดยมี มส.เป็นที่ปรึกษา และหลังจากนี้ทราบมาว่า นายสุวพันธุ์ จะลงพื้นที่ชี้แจงเกี่ยวกับแผนปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนาต่อคณะสงฆ์หนต่างๆ ทั่วประเทศ ในช่วงเดือน ส.ค.-ก.ย.นี้ พระพรหมบัณฑิต กล่าวต่อไปว่า หนึ่งในเรื่องของการปฏิรูปที่สำคัญ คือ การพัฒนาพุทธมณฑลเป็นศูนย์กลางการปกครองคณะสงฆ์ ระยะดำเนินการตั้งแต่2560-2564 ซึ่งตามแผนดังกล่าวกำหนดให้มีสำนักงานกลางการปกครองคณะสงฆ์อยู่ที่พุทธมณฑล จ.นครปฐม รวมไปถึงสำนักงานเจ้าคณะภาคทุกภาคก็จะอยู่ที่พุทธมณฑลด้วย เนื่องจากปัญหาที่ผ่านมาพบว่า การทำงานขาดความต่อเนื่อง เพราะเมื่อเปลี่ยนตัวเจ้าคณะภาค สำนักงานของเจ้าคณะภาคก็จะเปลี่ยนไปอยู่ที่วัดของเจ้าคณะภาครูปนั้น แต่เอกสาร ข้อมูล ต่างๆไม่เปลี่ยนตามตัวเจ้าคณะภาคการทำงานจึงไม่ต่อเนื่อง ดังนั้น การมีสำนักงานเจ้าคณะภาคอยู่ที่พุทธมณฑล หากมีการเปลี่ยนแปลงเจ้าคณะภาค แต่เอกสาร ข้อมูลก็จะยังอยู่ที่สำนักงานกลางไม่ต้องเปลี่ยนไปตามวัดของเจ้าคณะภาคด้วย “ในส่วนของสำนักงานเจ้าคณะจังหวัดก็เช่นเดียวกัน ตามแผนนี้ก็จะกำหนดให้สำนักงานเจ้าคณะจังหวัด และสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) อยู่ที่พุทธมณฑลประจำจังหวัดด้วย ทั้งนี้ เพื่อต้องการอุดช่องว่างในการปกครองคณะสงฆ์ และจะทำให้เกิดเอกภาพในการบริหารการจัดการ ในการปกครองคณะสงฆ์ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการบริหารงานที่มีคุณภาพขึ้น ” กรรมการ มส.กล่าว“