เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2566 พระธรรมวัชรบัณฑิต,ศ.ดร. อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) ได้มอบนโยบายด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ “พลิกโฉมมหาจุฬาฯ มหาวิทยาลัยดิจิทัล” แก่บุคลากรด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของมหาวิทยาลัย 3 ประเด็นด้วยกันคือ 1.สถานการณ์ปัจจุบันกับบทบาทของสถาบันอุดมศึกษา 2.ธรรมชาติของสถาบันอุดมศึกษากับความเป็นมหาวิทยาลัยดิจิทัลไปด้วยกันได้หรือไม่ 3.นโยบายด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ของ มจร
สำหรับประเด็นสถานการณ์ปัจจุบันโดยเฉพาะด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ การเกิดขึ้นของปัญญาประดิษฐ์(เอไอ) การสื่อสารออนไลน์ทุกรูปแบบส่งผลให้คนทั้งโลกเป็นผู้สื่อข่าวอย่างไม่เป็นทางการทั้งโลก อันมีผลต่อสถานบันอุดมศึกษา และวิเคราะห์ดูแล้วน่าจะเป็นภัยคุกครามมากกว่า ต้องทำให้สถานบันอุดมศึกษาโดยเฉพาะ มจร จะต้องปรับเปลี่ยนเรียนรู้ ต้องขยันเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว ก็ต้องดูว่าองค์ประกอบของการสื่อสารมีอะไรบ้าง (SMCR) ดังนั้นจึงมอบหมายให้บุคลากรด้านเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นแม่งานในเรื่องนี้
พระมหาขวัญชัย กิตฺติเมธี,ผศ.ดร.อาจารย์ คณะพุทธศาสตร์ มจร ได้เข้าร่วมการมอบนโยบายในครั้งนี้ด้วยได้เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “Khwanchai Kittimetee” ความว่า “เป็นตัวแทนคณาจารย์คณะพุทธศาสตร์ อบรม MOOC ใน 2 วัน (10-11 กุมภาพันธ์ 2566) เป็นการ upskill การเรียนการสอนที่เชื่อมโยงกันระหว่าง content creator กับ สื่อออนไลน์ที่อาศัยเครื่องมือที่ถูกออกแบบมาอย่างหลากหลาย ไล่ตั้งแต่ ChatGPT, metaverse, botnoi, streamlaps, loomai,kindmaster, iriun ฯลฯ และอีกมากมายอย่างไม่น่าเชื่อ เหมือนที่เขาเปรียบไว้ การศึกษาก็เหมือนพายเรือกลางน้ำเชี่ยว หากเราหยุดพายเมื่อใด เรือของเราไม่ให้จะหยุดอยู่กับที่ แต่จะถอยหลังออกไปทุกที”
นายบิล เกตส์ มหาเศรษฐีผู้ร่วมก่อตั้งไมโครซอฟท์ แสดงความเห็นกับหนังสือพิมพ์ฮันเดลสบลัตต์ว่า ChatGPT แชตบอตเอไออัจฉริยะที่สามารถโต้ตอบผู้ใช้ได้คล้ายคลึงกับมนุษย์ มีความสำคัญเทียบเท่าการคิดค้นอินเทอร์เน็ต
นายเกตส์กล่าวว่า “จนถึงตอนนี้ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ทำได้แค่อ่านและเขียน แต่ไม่สามารถเข้าใจเนื้อหาได้ โปรแกรมใหม่ ๆ อย่าง ChatGPT จะทำให้งานออฟฟิศมากมายมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยการช่วยเขียนอินวอยซ์หรือจดหมายต่าง ๆ ซึ่งสิ่งนี้จะเปลี่ยนโลกของเราได้”