ข่าวประชาสัมพันธ์
มหาจุฬาฯ พัฒนาบุคลากรให้บริหารจัดการความรู้อย่างเป็นระบบ
15 ส.ค. 52 | ข่าวมหาวิทยาลัย
446
ข่าวมหาวิทยาลัย
มหาจุฬาฯ พัฒนาบุคลากรให้บริหารจัดการความรู้อย่างเป็นระบบ
วันที่ ๑๕/๐๘/๒๐๐๙ เข้าชม : ๑๐๕๐๗ ครั้ง

     มหาจุฬาฯ วังน้อย:วันที่ ๑๔ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๒  พระธรรมโกศาจารย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เป็นประธานเปิดการสัมมนา เรื่อง การจัดการความรู้ จากแนวคิดสู่การปฏิบัติ สำหรับผู้บริหารระดับต้นและระดับกลาง  ณ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตำบลลำไทร อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้บริหารทราบและเข้าใจทิศทางและแนวทางการจัดการความรู้ของมหาวิทยาลัยและเห็นความสำคัญของการจัดการความรู้ สามารถนำเครื่องมือที่เหมาะสม ประยุกต์ใช้ในสถานการณ์ต่างๆ ได้ทันเวลาและทันเหตุการณ์ อันจะส่งผลให้การปฏิบัติงานของบุคลากรในมหาวิทยาลัยมีคุณภาพ และมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น และพัฒนาทักษะและเพิ่มศักยภาพของผู้บริหารในการจัดการความรู้และยังเป็นการเพิ่มทุนทางปัญญาของมหาวิทยาลัย เพื่อก้าวไปสู่การเป็นศูนย์กลางการศึกษาวิชาการทางพระพุทธศาสนา ซึ่งได้รับความร่วมมือจากองค์กรภาคี ๔ องค์กร ร่วมเป็นวิทยากร ประกอบด้วย (๑) สถาบันส่งเสริมการจัดการความรู้เพื่อสังคม (สคส) (๒) NOK Precision Component (Thailand) Ltd. (๓) คณะแพทย์ศาสตร์ ศิริราช และ (๔) เครือซีเมนต์ไทย โดยขัดการสัมมนาระหว่างวันที่ ๑๔ - ๑๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๒
         พระธรรมโกศาจารย์ กล่าวว่า การจัดการความรู้เป็นเรื่องที่สำคัญ และต้องใส่ใจ โดยแปลงจากภาคทฤษฏีมาสู่การปฏิบัติ เพื่อนำพาองค์กรไปตามวิสัยทัศน์ที่ตั้งไว้ คือเป็นศูนย์กลางการศึกษาพระพุทธศาสนาของโลกบูรณาการพุทธศาสนาเข้ากับศาสตร์สมัยใหม่เพื่อพัฒนาจิตใจและสังคม เราจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ในวิสัยทัศน์ได้  หากการจัดการความรู้เป็นเพียงแค่อุดมการณ์ เหมือนฝันกลางวัน พัฒนาการของมหาวิทยาลัยอย่างที่ได้มาหรือกำลังเป็นอยู่ก็จะไม่ยั่งยืนและการพัฒนาจะไม่สมดุล  บางส่วนงานพัฒนาไปมาก บางส่วนงานล้าหลัง  ความยิ่งใหญ่ในเชิงปริมาณ กลายเป็นความเทอะทะ ถ่วงกันเอง ทำให้มหาวิทยาลัยไม่สามารถจะทำพันธกิจได้อย่างประสบความสำเร็จ เสมือนล้อของรถวิ่งไม่ทันกัน  การจะแก้ปัญหาของมหาวิทยาลัย ซึ่งมีวิทยาเขตและห้องเรียนที่มากมาย กระจัดกระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาคในประเทศนั้น จะประสบความสำเร็จได้  สมาชิกต้องเรียนรู้ร่วมกันและปรับปรุงตนเอง สนับสนุนให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ มีการถ่ายทอดความรู้ ซึ่งกันและกันภายในระหว่างบุคลากรควบคู่ไปกับการรับความรู้จากภายนอก เพื่อนำไปสู่การพัฒนาและปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก เรียกว่า การจัดการความรู้ ซึ่งเป็นกระดูกสันหลังขององค์กรแห่งการเรียนรู้หรือ Learning Organization ถ้าประสบความสำเร็จจะส่งผลไม่ใช่เพียงองค์กรของมหาวิทยาลัยเท่านั้นแต่เพื่อของพระพุทธศาสนาโดยรวม

    
ฝ่ายประชาสัมพันธ์และเผยแผ่/ภาพ/ข่าว



เอกสารประกอบ
ไฟล์แนบ : KM3H_MCU_Rector.ppt
แหล่งข่าว : ส่วนเทคโนโลยีสารสนเทศ
Print This Page    Sent to Friend
แสดงความคิดเห็น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • "อ.เบียร์ คนตื่นธรรม" ข้ากราบสักการะ "พระเทพวัชรสารบัณฑิต" ปมเปรียบพระเกจิกับสุนัข
    11 ม.ค. 68 | ข่าวมหาวิทยาลัย
    50
  • พิธีอัญเชิญปัจจัยพระราชทาน สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ 8 มกราคม โดย นายกิติภัค เกษรสิริธร ผู้แทนพระองค์
    08 ม.ค. 68 | ข่าวมหาวิทยาลัย
    103
  • "อาจารย์ ม.สงฆ์ มจร" นำสัมมนานานาชาติ เสริมพลังพุทธศาสนาและวรรณกรรมเพื่อความเท่าเทียม
    07 ม.ค. 68 | ข่าวมหาวิทยาลัย
    83
  • “ความเป็นผู้รู้จักเวลา เป็นรากฐานสำคัญ ที่ทำให้คนเราสามารถดูแลรับผิดชอบตนเองได้ อันจะนำไปสู่ความสำเร็จที่สูงขึ้นต่อไปในอนาคต เด็กทุกคนจึงควรได้รับการปลูกฝังให้เป็นผู้รู้จักเวลา รู้ว่าเวลาใดควรปฏิบัติสิ่งใด..เหมาะแก่เวลาเสมอ” พระบรมราโชวาท ร.10 เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ปี 2568
    05 ม.ค. 68 | ข่าวมหาวิทยาลัย
    253
  • “เจ้าคุณประสาร” มอง “อ.เบียร์” ขาด “คารวตา” ปมวิจารณ์ “พระเกจิสังขารไม่เปื่อย” ให้สติ “อย่าเป็นชาล้นถ้วย”
    04 ม.ค. 68 | ข่าวมหาวิทยาลัย
    120