กว่า ๑ ปีแล้ว ที่การก่อสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์สมเด็จพระพุฒาจารย์ (อาจ อาสภมหาเถร) ณ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ผ่านมาแล้ว ๑ ปี กับอีก ๙ วัน การก่อสร้างคืบหน้าแล้วร้อยละยี่สิบ ระยะเวลา ๑ ปีที่ผ่านมาเป็นช่วงวางฐานราก กว่างานฐานรากจะเสร็จเห็นมรรคเห็นผลก็ผ่านมาแล้ว ๑ ปี ปัจจุบันกำลังจะขึ้นชั้นที่ ๒ คาดว่าภายในพรรษานี้น่าจะขึ้นชั้นที่ ๒ ปลายปีน่าจะเห็นหลังคา
อาคารพิพิธภัณฑ์สมเด็จพระพุฒาจารย์ (อาจ อาสภมหาเถร) พระธรรมโกศาจารย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เป็นประธานพิธีวางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ ๖ สิงหาคม ๒๕๕๓ เป็นอาคาร ๒ ชั้นครึ่ง ชั้นที่ ๑ เป็นสำนักงาน และพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการ พิพิธภัณฑ์ ประวัติเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (อาจ) ชั้นที่ ๒ เป็นห้องโถงใหญ่ เป็นสถานที่ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ห้องสอบอารมณ์ สามารถรองรับผู้ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน จำนวน ๔๕๐ คน
นายแพทย์รัศมี - คุณหญิงสมปอง วรรณิสสร เป็นมหาอุบาสิกาที่ยึดมั่นในพระรัตนตรัยอย่างสมบูรณ์ เป็นมหาอุบาสิกาที่มีความกตัญญูกตเวที เป็นผู้ถวายที่ดินจำนวน ๘๔ ไร่ ๑ งาน ๓๗ ตารางวา เป็นที่ก่อสร้างมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย รวมทั้งได้บริจากทรัพย์อุปถัมภ์พระพุทธศาสนา สร้างสาธารณะประโยชน์ จำนวนมาก, คุณหญิงสมปอง ได้ให้สัมภาษณ์ในหนังสือสตรีผู้สร้างเกียรติยศจากความใฝ่ผัน ตอนหนึ่งว่า "เมื่อท่านเเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (อาจ) เข้ารักษาตน ณ โรงพยาบาล คุณหญิงก็ได้มีโอกาสถวายการรักษาพยาบาลพระสงฆ์ที่อาพาธตามแบบอย่างของชาวพุทธ ตนมีโอกาสใกล้ชิดกับพระสงฆ์มากขึ้น เป็นเหตุทำให้รู้ว่า งานพระศาสนาเป็นงานหนัก เป็นการสืบทอดจิตวิญญาณแห่งบรรพชนไทย พระสงฆ์ทำงานกันอย่างหนัก มุ่งมั่นต่อการสืบทอดเจตนารมณ์แห่งสังฆะในอดีต ด้วยภารกิจแห่งการสืบทอดพระศาสนาและเป็นสิ่งที่ชาวพุทธจะพึงถวายการอุปถัมภ์อย่างจริงใจ..."
คุณหญิ่งกล่าวต่อไปว่า "..พระสงฆ์มิใช่เพียงผู้ทรงศีล สงบ เย็น ด้วยบทบริกรรมภาวนา ที่จะต้องอุปัฏฐากด้วยข้าวปลาอาหารและเครื่องนุ่งห่มเพียงเท่านั้น หากแต่ท่านคือผู้สร้างคุณูปการอันใหญ่ใหญ่ต่อสังคม..การศึกษาเป็นหัวใจของงานพระศาสนา พระสงฆ์ในประเทศนี้ต้องมีการศึกษา รู้เท่าทันสังคมที่กำลังเจริญรุดหน้า จึงจะทำให้งานพระศาสนาสำเร็จได้ มิเช่นนั้น พระสงฆ์ที่เคยเป็นผู้นำของสังคมไทยทุกด้านในอดีตจะกลายเป็นองค์กรที่ล้าหลังและสุดท้ายก็ไม่หลงเหลือพระพุทธศาสนาอยู่ในประเทศนี้อีก.." นี้กระมั่งเป็นเหตุให้นายแพทย์รัศมี-คุณหญิงสมปอง ถวายที่ดินสร้างมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
การก่อสร้างมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยดำเนินไปด้วยดีตามลำดับ ทั้งนี้ก็ด้วยการสนับสนุนด้านงบประมาณจากรัฐบาล รวมทั้งการระดมทุนอุปถัมภ์การก่อสร้าง และการบริจาคโดยตรงจากผู้มีจิตศรัทธา ที่สำคัญประกอบด้วย สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ วัดปากน้ำภาษีเจริญ พระวิสุทธาธิบดี วัดสุทัศนเทพวราราม, พระพรหมมังคลาจารย์ วัดชลประทานรังสฤษดิ์, พระราชพิพัฒน์โกศล วัดศรีสุดาราม, ดร.ยุวรี เอื้อกาญจนวิไล, นายศักดิ์ชัยและนางสุดาวรรณ เตชะไกรศรี โดยใช้งบประมาณค่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้างไปแล้วทั้งสิ้น ๒,๑๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท (สองพันหนึ่งร้อยล้านบาทถ้วน) ปัจจุบัน มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่เลขที่ เลขที่ ๗๙ หมู่ที่ ๑ หลักกิโลเมตรที่ ๕๕ ตำบลลำไทร อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ขยายพื้นที่เพิ่มเติมเป็น ๓๒๕ ไร่ ขณะนี้ กำลังดำเนิน การจัดสร้างวิทยาลัยพระพุทธศาสตร์นานาชาติเพื่อพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางการศึกษาพระพุทธศาสนาของชาวไทยและชาวโลก มีสาขาทั้งในและต่างประเทศประกอบด้วย วิทยาเขต ๑๐ แห่ง, วิทยาลัยสงฆ์ ๗ แห่ง, โครงการขยายห้องเรียนในจังหวัดต่างๆ ๑๐ แห่ง, หน่วยวิทยบริการ ๑๘ แห่ง และสถาบันสมทบ ๗ แห่ง มีพระธรรมโกศาจารย์ (ประยูร ธมฺมจิตฺโต ป.ธ.๙,Ph.D.) ศาสตราจารย์ เจ้าคณะภาค ๒ เจ้าอาวาสวัดประยูรวงศาวาส เป็นอธิการบดี เฉพาะที่วังน้อยมีพระนิสิตกำลังศึกษาจำนวน ๑,๒๐๐ รูป
ติดต่อสอบถามรายละเอียด ร่วมเป็นเจ้าภาพอุปถัมภ์มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย โทรศัพท์ 0-3524-8000, 0-3535-4710, 0-3535-4711 โทรสาร 0-3524-8006
รายงานความคืบหน้า โดยพระมหาศรีทนต์ สมจาโร ผู้อำนวยการส่วนหอสมุดกลาง |