ข่าวมหาวิทยาลัย |
รมต.สุรวิทย์ เยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบภัยที่ มจร วังน้อย | ||
วันที่ ๒๕/๑๐/๒๐๑๑ | เข้าชม : ๗๓๘๒ ครั้ง | |
สถานที่ : มหาจุฬาฯ วังน้อย เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2554 เวลาประมาณ 17.00 น. พระธรรมโกศาจารย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ให้การต้อนรับ ฯพณฯ สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พร้อมคณะ เดินทางไปแจกถุงยังชีพและเยี่ยมชมให้กำลังแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วม ที่ศูนย์ช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ประสบภัยน้ำท่วมของมูลนิธิชัยพัฒนา ณ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตำบลลำไทร อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อเดินทางไปถึงมหาจุฬาฯ วังน้อย รมต.สุรวิทย์ และคณะ ถวายถุงยังชีพแด่พระธรรมโกศาจารย์ เพื่อให้มหาวิทยาลัยทำการแจกจ่ายให้แก่ผู้ประสบภัยที่มารอรับบริจาคตั้งแต่ช่วงบ่าย หลังจากนั้น อธิการบดีได้นำรัฐมนตรีและคณะเยี่ยมชมให้กำลังใจแก่ผู้ประสบภัย ซึ่งมีจำนวนเกือบ 500 คน ที่กำลังพักพิงอยู่ ณ ศูนย์แห่งนี้ หลังจากเยี่ยมชมแล้ว ท่านรัฐมนตรีสุรวิทย์ ได้กล่าวขอบคุณมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ที่ได้สนองงานของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งพระองค์มีพระราชประสงค์ให้ใช้สถานที่ของมหาวิทยาลัยเป็นศูนย์พักพิงแก่ผู้ประสบภัย โดยมอบหมายให้มูลนิธิชัยพัฒนาเป็นหน่วยงานหลักในการบริหารจัดการศูนย์แห่งนี้ เพื่อให้ผู้พักพิงได้อาศัยอย่างปลอดภัย อีกทั้งยังมีการจัดกิจกรรมเพื่อให้เกิดความผ่อนคลายโดยอาศัยวิธีการทางพระพุทธศาสนา เช่น การไหว้พระสวดมนต์ การเดินจงกรม การจัดกิจกรรมสันทนาการอย่างมีส่วนร่วม เพื่อให้ผู้พักพิงได้รู้สึกผ่อนคลายความวิตกกังวลจากวิกฤตน้ำท่วม และจะได้นำสิ่งที่ได้พบเห็นไปเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อร่วมกันพิจารณาหาหนทางช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยในระยะยาวต่อไป นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า การบริหารจัดการของศูนย์ฯ แห่งนี้ ถือว่าเป็นแบบอย่างที่ดีเพราะนอกจากให้การช่วยเหลือด้านอาหารเครื่องอุปโภคบริโภคแล้ว ยังให้การดูแลด้านจิตใจอีกด้วย และขอใช้ศูนย์ฯ แห่งนี้เป็นแบบอย่างศูนย์อื่น ๆ ในการเสนอโครงการให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย พระธรรมโกศาจารย์ อธิการบดี ได้กล่าวขอบคุณท่านรัฐมนตรี และผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พร้อมกล่าวสรุปว่า วิกฤตการมหาอุทกภัยครั้งนี้ ทำให้ได้เห็นคติธรรมจากสายน้ำ ที่ว่า สายน้ำไม่แยกแตกจากกัน จึงทำให้มีพลังมหาศาล ถ้าเรามีความสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ไม่แตกความสามัคคีกันก็จะทำให้สามารถพลิกวิกฤตเป็นโอกาส เปลี่ยนพินาศเป็นพัฒนาได้เพราะความมีน้ำใจของคนไทยทุกคน
|
แหล่งข่าว : สำนักงานบริหาร สำนักส่งเสริมพระพุทธศาสนาและบริการสังคม | ||