นิสิตใหม่แห่เรียนสันติศึกษาคึกคัก มุ่งเป็นวิศวกรสันติภาพ แก้ปมความขัดแย้ง
26 เม.ย. 56 | ข่าวมหาวิทยาลัย
131
|
ข่าวมหาวิทยาลัย |
|
นิสิตใหม่แห่เรียนสันติศึกษาคึกคัก มุ่งเป็นวิศวกรสันติภาพ แก้ปมความขัดแย้ง |
วันที่ ๒๖/๐๔/๒๐๑๓ |
เข้าชม : ๔๓๗๔ ครั้ง |
นับวันปัญหาความขัดแย้งทั้งระดับครอบครัว ระดับชุมชน ระดับชาติ รวมทั้งระหว่างชาติ ส่อถึงความรุนแรงมากยิ่งๆ ขึ้น กรณีเช่นนี้จะมีใครสักกี่คนในโลกที่มีแนวคิดที่จะนำหลักธรรมทางศาสนาไม่ว่า จะเป็นของศาสนาใดก็ตามมาประยุกต์ใช้ให้เกิดสันติภาพต่อมวลมนุษย์ แม้ว่าทุกชนชาติในโลกจะมองข้ามหลักคำสอนทางศาสนาที่ตนนับถือ หรืออาจจะไม่เชื่อว่าคำสอนทางศาสนาของตนนั้นจะสามารถนำมาใช้ให้เกิดสันติภาพและสันติสุขแก่มวลมนุษย์ได้ ซึ่งก็ใช่จะสิ้นหวังไปเสียทั้งหมด เพราะเมื่อไม่นานมานี้สถาบันทางการศึกษาระดับอุดมศึกษาชื่อดังในประเทศไทยของเรา ได้ผุดหลักสูตรวิชาสันติภาพขึ้นมา สร้างความฮือฮาและความสนใจไปทั่วสารทิศ
ความคืบหน้าเกี่ยวกับวิชาสันติวิธีดังกล่าว เมื่อวันเสาร์ที่ 20 เมษายน 2556 ที่ห้อง 400 อาคารเรียนรวม โซน D มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร. วังน้อย) พระศรีคัมภีรญาณ,รศ.ดร. รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ พระมหาหรรษา ธมฺมหาโส รศ.ดร. ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายวิชาการ ผู้กำกับหลักสูตรโครงการปริญญาโท สาขาวิชาสันติศึกษา ผศ.ดร.สุรพล สุยะพรหม รองอธิการบดีฝ่ายกิจการทั่วไป พล.อ.เอกชัย ศรีวิลาส ผู้อำนวยการสำนักสันติวิธีและธรรมาภิบาล สถาบันพระปกเกล้า ดร.นพ.บรรพต ต้นธีรวงศ์ นักจิตวิทยา และอาจารย์อดุลย์ ขันทอง ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ประจำสำนักประธานศาลฎีกา ได้ร่วมสัมภาษณ์นิสิตใหม่ที่สมัครเข้าเรียนวิชาสันติศึกษาเพื่อมุ่งวัดความรู้ความเข้าใจทั่วไป เจตคติ แนวคิด ทัศนคติ อารมณ์ บุคลิกภาพ และความพร้อมในการศึกษา โดยกำหนดให้มีการประกาศผลการสอบสัมภาษณ์ในวันที่ 22 เมษายน และให้รายงานตัวนิสิตใหม่ระหว่างวันที่ 24-25 เมษายน จากนั้นจะมีการปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่ในวันที่ 25-26 พฤษภาคม 2556
พระมหาหรรษา กล่าวว่า ตามที่มจร.ได้ร่วมมือกับสำนักงานศาลยุติธรรม และสถาบันพระปกเกล้า พัฒนาหลักสูตรระดับปริญญาโท สาขาวิชาสันติศึกษาขึ้น โดยมุ่งเน้นการบูรณาการการพัฒนาสันติภาพแบบผสมผสานทั้งภายในและภายนอก ซึ่งหลักสูตรดังกล่าวสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ได้ให้ความเห็นชอบและรับทราบหลักสูตรเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น ภายหลังการเปิดตัวหลักสูตร ได้มีผู้สนใจที่มาจากหลากหลายสาขาอาชีพสมัครเข้าเรียนเป็นจำนวนมาก ทั้งที่เป็นผู้บริหารระดับสูงทั้งส่วนภาครัฐและเอกชน เช่น รองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ผู้ทรงคุณวุฒิประจำกระทรวงสาธารณสุข พยาบาลวิชาชีพ วิศวกร เจ้าของธุรกิจ นายตำรวจ นักกฎหมาย เจ้าหน้าที่ไกล่เกลี่ย นอกจากนี้ยังมีผู้สนใจระดับดร.เข้าเรียนด้วย
พระมหาหรรษา กล่าวต่อไปว่า ผู้สนใจที่เข้ามาสมัครเรียนทุกรูป/คน ทางมจร.จำเป็นต้องคัดเอาเฉพาะผู้ที่มีทัศนคติ มีศักยภาพที่จะพัฒนาเป็นวิศวกรสันติภาพรุ่นแรก จากนี้ก็จะเข้าสู่ภาคการเรียนในเดือนมิถุนายน 2556 ตรงนี้จึงถือเป็นจุดเริ่มต้นที่จะมาเรียนรู้ร่วมกัน ปรับทัศนคติให้ตรงกัน ส่วนวิชาที่สำคัญของหลักสูตรนี้คือ วิชาการไกล่เกลี่ย โดยจะปูพื้นจากความขัดแย้ง ทัศนคติเกี่ยวกับความขัดแย้งทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศทั่วโลก จากนั้นก็เริ่มสอนให้เป็นนักไกล่เกลี่ยเวลามีความขัดแย้งกัน เวลาที่มีความคิดเห็นที่ไม่ตรงกัน การเป็นนักไกล่เกลี่ยจะช่วยให้คนที่ขัดแย้งกันสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข แต่ที่สำคัญต้องเริ่มที่ตัวเองก่อน ก่อนที่จะไปสร้างสันติภาพให้กับคนอื่น ดังนั้นจึงต้องมีวิชาพัฒนาชีวิตด้วยสันติภายในก่อน และเมื่อได้วิชาการเป็นนักสันติภาพแล้วก็จะออกไปช่วยไกล่เกลี่ยคดีความในศาล หรือในชุมชนต่อไป
ในมุมมองของปัญหาความขัดแย้งเกี่ยวกับข้อพิพาทบริเวณปราสาทพระวิหาร พระมหาหรรษา กล่าวว่า ผลการตัดสินของศาลโลกจะออกมาอย่างไรก็ตาม ประเด็นคงไม่ได้อยู่ที่ใครจะแพ้หรือจะชนะ แต่สิ่ิงที่อยู่เหนือการแพ้หรือชนะคือสันติภาพที่ยั่งยืนระหว่างสองประเทศ ถึงอย่างไรทั้งไทยและกัมพูชาก็ตัดกันไม่ได้ ขายกันไม่ขาด เพราะพรมแดนติดกัน ไม่สามารถขีดเส้นระหว่างแดนได้เพราะคนในพื้นที่ต่างก็เป็นพี่เป็นน้องกัน เป็นญาติกัน
“ประชาชนทั้ง 2 ประเทศต่างก็ข้ามไปข้ามมา คนฝั่งโน้นมาได้ภรรยาเป็นคนศรีสะเกษ คนศรีสะเกษไปได้ภรรยาฝั่งโน้น ต่างคนต่างมีพ่อ มีแม่ มีญาติ การปกครองในยุคล่าอาณานิคมมิได้เข้ามาแบ่งแยกดินแดนของสองประเทศออกจากกันเท่านั้น แต่ได้แบ่งความสัมพันธ์ฉันท์พี่น้องของสองชาติออกไปด้วย ดินแดนแห่งความสัมพันธ์ ความรัก ความเป็นญาติมันขีดเส้นอย่างนั้นไม่ได้ ถึงอย่างไรก็ต้องอยู่ร่วมกันให้ได้ในพื้นที่ตรงนั้น ดังนั้น ทุกคนต้องยอมรับกติกาที่เกิดขึ้นในเมื่อเราต่างก็ต้องอยู่ในสังคมโลก เรายอมรับศาลโลก เมื่อศาลตัดสินมาอย่างไรเราก็ควรรับให้เป็นไปตามนั้น อย่าคิดว่าเมื่อศาลตัดสินแล้วจะมาทำให้เราเกลียดชังพี่น้องกัน เราจะต้องอยู่ร่วมกันฉันท์พี่น้องให้ได้” พระมหาหรรษา กล่าว
ณ. หนูแก้ว /บทความ
สมหมาย สุภาษิต
|
แหล่งข่าว : ส่วนเทคโนโลยีสารสนเทศ |
|