เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๒๙ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๖๔ สภามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในคราวประชุมครั้งที่๗/๒๕๖๔ มีมติอนุมัติ “หลักสูตรพุทธศาสตรมหาบัณฑิต (พธ.ม.) สาขาวิชาพุทธศิลปกรรม หลักสูตรใหม่ ๒๕๖๔” และ“หลักสูตรพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต (พธ.ด.) สาขาวิชาพุทธศิลปกรรม หลักสูตรใหม่ ๒๕๖๔” และอนุมัติโครงการเปิดสอนทั้งสองหลักสูตร ณ บัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตเชียงใหม่
ภายหลังจากที่ได้ดำเนินการจัดการศึกษาหลักสูตรพุทธศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาพุทธศิลปกรรม ซึ่งเป็นหลักสูตรได้รับความชื่นชมจาก UNESCO ว่าเป็นรูปแบบของการอนุรักษ์ศิลปกรรมซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติ ที่เรียกว่า “การอนุรักษ์เชิงป้องกันมากว่า 10 ปี และได้รับเมตตาจากผู้บริหารมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายสถาบันทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค คณาจารย์ เจ้าหน้าที่บัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตเชียงใหม่ ร่วมดำเนินการพัฒนาหลักสูตรฯ เริ่มจากการยกร่างหลักสูตรฯ และการรับฟังความคิดเห็นจากผู้ทรงคุณวุฒิ กระทั่งได้ปรัชญา ความสำคัญ วัตถุประสงค์ โครงสร้างหลักสูตร รายวิชา คำอธิบายรายวิชา ตลอดถึงรายละเอียดผลการเรียนรู้ที่คาดหวังของหลักสูตร (Program Learning Outcomes – PLOs) เพื่อให้สอดคล้องกับกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ (Thai Qualifications Framework for Higher Education – TQF:HEd) และ ผลลัพธ์ที่พึงประสงค์ของการศึกษา (Desired Outcome of Education – DOE)
@ ผู้ใหญ่ที่เป็นแรงบันดาลใจและมีอุปการคุณ ที่เมตตาให้หลักสตรพุทธศิลปกรรมได้รับการอนุมัติ ที่ขออนุญาตกล่าวนามได้แก่ พระพรหมบัณฑิต อุปนายกสภามหาวิทยาลัย พระธรรมวัชรบัณฑิต อธิการบดี พระเทพปวรเมธี เลขานุการสภามหาวิทยาลัย พระมหาสมบูรณ์ วุฑฺฒิกโร คณบดีบัณฑิตวิทยาลัย ศ.ดร.สันติ เล็กสุขุม ราชบัณฑิต สาขาวิชาประวัติศาสตร์สถาปัตยกรรม คุณมณฑิรา หรยางกูร อูนากูล องค์การยูเนสโก กรุงเทพฯ (UNESCO Bangkok) และอีกหลาย ๆ ท่าน
@ ข้อเสนอแนะของพระเดชพระคุณ พระพรหมบัณฑิต เรื่องการทำความร่วมมือกับยูเนสโก (UNESCO) ในการทำให้เป็นต้นแบบหลักสูตรพุทธศิลปกรรม ซึ่งประเทศพุทธจะได้นำไปพัฒนา เพื่อการอนุรักษ์มรดกพุทธศิลปกรรม และสร้างสรรค์งานพุทธศิลปกรรมอันทรงคุณค่าเพิ่มมูลค่าสู่สากล เป็นข้อเสนอแนะที่ทรงคุณค่ายิ่ง
เราจะร่วมมือกันดำเนินการจัดกระบวนการเรียนรู้ เพื่อพัฒนามหาบัณฑิตและดุษฎีบัณฑิตที่สามารถช่วยชี้นำการอนุรักษ์ ประยุกต์และสร้างสรรค์งานพุทธศิลป์ในสังคมไทย ก้าวไกลถึงสังคมโลก
คงในการที่จะเข้ามาศึกษาในหลักสูตรทั้งสองระดับ เพราะรู้สึกว่าตนเองไม่มีความถนัดในการพัฒนางานพุทธศิลปกรรม จะสามารถเรียนสาขาวิชาพุทธศิลปกรรม ได้หรือไม่ ???
ทั้งหลักสูตรพุทธศาสตรมหาบัณฑิต (พธ.ม.) สาขาวิชาพุทธศิลปกรรม [แผน ก แบบ ก (๑) แผน ก แบบ ก (๒)] และหลักสูตรพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต (พธ.ด.) สาขาวิชาพุทธศิลปกรรม [แบบ ๑.๑ และ แบบ ๑.๒] ได้วางโปรแกรมการศึกษาค้นความให้เหมาะสมกับสองกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ๑) “กลุ่มศิลปิน” ผู้ผ่านการศึกษาสายศิลปะมาโดยตรง ซึ่งกล่าวได้ว่าเป็นสาย “รูป” และ ๒) “กลุ่มนักคิดนักเขียน นักวิจารณ์” ผู้มีอุปนิสัยช่างสังเกตและมองศิลปะผ่านมุมมองทางแนวคิดทฤษฎี ซึ่งกล่าวได้ว่าเป็นสาย “นาม”
ผลงานการศึกษาค้นคว้าหรืองานวิทยานิพนธ์ของ “กลุ่มศิลปิน” ซึ่งทำ “พุทธศิลปะวิจัย” ก็จะออกมาเป็น “ชิ้นงานพุทธศิลปกรรม + รายงานเอกสาร ?” ในขณะที่ผลงานการศึกษาค้นคว้าหรืองานวิทยานิพนธ์ของ “กลุ่มนักคิดนักเขียน นักวิจารณ์” ซึ่งทำ “วิจัยพุทธศิลปะ” ก็จะออกมาเป็น “รายงานเอกสาร + ชิ้นงานพุทธศิลปกรรม ?”
ท่านที่สนใจ ติดต่อขอทราบรายละเอียดเพิ่มเติมที่ : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยวิทยาเขตเชียงใหม่