ข่าวประชาสัมพันธ์
แนะใช้หลักศาสนา-ปรัชญาแก้ปัญหาสังคมขัดแย้ง
10 ส.ค. 52 | ข่าวมหาวิทยาลัย
485
ข่าวมหาวิทยาลัย
แนะใช้หลักศาสนา-ปรัชญาแก้ปัญหาสังคมขัดแย้ง
วันที่ ๑๐/๐๘/๒๐๐๙ เข้าชม : ๘๘๙๙ ครั้ง

        การที่สังคมไทยไม่ได้ให้ความสำคัญต่อการศึกษาศาสนาและปรัชญา ทำให้เกิดปัญหาด้านศีลธรรม เกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรง ซึ่งปัญหาเหล่านี้ถ้าใช้หลักของศาสนาและปรัชญาเข้าไปแก้จะเกิดประโยชน์อย่างยิ่ง...

        จากการประชุมสัมมนา ราชบัณฑิตสัญจร เรื่อง บทบาทของวิชาศาสนาและปรัชญาในสังคมไทย จัดโดยสำนักธรรมศาสตร์และการเมือง ราชบัณฑิตยสถาน ร่วมกับ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร.) พระธรรมโกศาจารย์ อธิการบดี มจร. และราชบัณฑิตกิตติมศักดิ์ กล่าวว่า การเรียนการสอนวิชาศาสนาและปรัชญาในสังคมไทยปัจจุบันต้องสอดคล้องกับที่ องค์การ การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรม แห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโกกำหนดไว้คือการศึกษาต้องประกอบด้วย 4 เรื่อง คือ

1.การศึกษาต้องเป็นไปเพื่อพัฒนาปัญญาและพัฒนาความรู้

2.เพื่อพัฒนาความสามารถในการปฏิบัติการ คือ ศาสนาและปรัชญาต้องบูรณาการให้ผู้ที่เรียนเอกวิชาอื่น มีจริยธรรมมีคุณธรรม เพราะคนกลุ่มนี้เมื่อเรียนได้ความรู้ความสามารถไปแล้ว เช่น เรียนรัฐศาสตร์แล้วไปปกครองแต่ขาดคุณธรรมขาดจริยธรรม ก็เกิดการทุจริต เกิดการขัดแย้งกัน ซึ่งวิชาที่สอนให้มีคุณธรรมจริยธรรมก็คือพระพุทธศาสนา

3.เพื่อพัฒนามนุษย์สัมพันธ์ เป็นการเรียนรู้ที่จะยอมรับกัน ซึ่งการที่สังคมไทยปัจจุบันอยู่ร่วมกันอย่างสันติไม่ได้เพราะไม่เรียนรู้ที่ จะอยู่ร่วมกัน เรียนแต่วิชาเอกของตัวเอง วิชาที่สอนให้คนอยู่ร่วมกันอย่างสันติ เกิดความอดทน เกิดความปรองดองสมานฉันท์ ก็คือวิชาศาสนาและปรัชญา ซึ่งประเทศไทยยังขาดอยู่ และต้องเรียนต้องสอนกันให้มากกว่านี้

4.เพื่อการเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ ทั้งนี้ ยูเนสโก ได้มีการวิจัยออกมาแล้วว่า ในศตวรรษที่ 21 การศึกษาต้องอาศัยทั้ง 4 เรื่องดังกล่าว จึงจะเป็นการศึกษาที่สมบูรณ์

         พระธรรมโกศาจารย์ กล่าวอีกว่า การที่สังคมไทยไม่ได้ให้ความสำคัญต่อการศึกษาศาสนาและปรัชญา ทำให้เกิดปัญหาด้านศีลธรรม เกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรง ซึ่งปัญหาเหล่านี้ถ้าใช้หลักของศาสนาและปรัชญาเข้าไปแก้จะเกิดประโยชน์อย่าง ยิ่ง การที่จะให้สังคมหันมาสนใจศาสนาปรัชญาต้องใช้สื่อเข้าช่วย แต่ปัจจุบัน สื่อที่เผยแพร่ออกมาล้วนแต่มอมเมาทั้งสิ้น จะมีเวลาให้พระสงฆ์สั่งสอนด้านศาสนาปรัชญาก็จัดเวลาให้ช่วง03.00-04.00 น. หากต้องการให้ใช้หลักของศาสนาปรัชญาเข้ามาช่วยแก้ปัญหา คณะสงฆ์ต้องมีสื่อของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นวิทยุกระจายเสียงหรือวิทยุโทรทัศน์.

ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์ 7 สิงหาคม 2552
ฝ่ายประชาสัมพันธ์และเผยแผ่



เว็บไซต์อ้างอิง
  Web Link : http://www.thairath.co.th/content/edu/24827
แหล่งข่าว : ส่วนเทคโนโลยีสารสนเทศ
Print This Page    Sent to Friend
แสดงความคิดเห็น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • "อ.เบียร์ คนตื่นธรรม" ข้ากราบสักการะ "พระเทพวัชรสารบัณฑิต" ปมเปรียบพระเกจิกับสุนัข
    11 ม.ค. 68 | ข่าวมหาวิทยาลัย
    50
  • พิธีอัญเชิญปัจจัยพระราชทาน สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ 8 มกราคม โดย นายกิติภัค เกษรสิริธร ผู้แทนพระองค์
    08 ม.ค. 68 | ข่าวมหาวิทยาลัย
    103
  • "อาจารย์ ม.สงฆ์ มจร" นำสัมมนานานาชาติ เสริมพลังพุทธศาสนาและวรรณกรรมเพื่อความเท่าเทียม
    07 ม.ค. 68 | ข่าวมหาวิทยาลัย
    83
  • “ความเป็นผู้รู้จักเวลา เป็นรากฐานสำคัญ ที่ทำให้คนเราสามารถดูแลรับผิดชอบตนเองได้ อันจะนำไปสู่ความสำเร็จที่สูงขึ้นต่อไปในอนาคต เด็กทุกคนจึงควรได้รับการปลูกฝังให้เป็นผู้รู้จักเวลา รู้ว่าเวลาใดควรปฏิบัติสิ่งใด..เหมาะแก่เวลาเสมอ” พระบรมราโชวาท ร.10 เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ปี 2568
    05 ม.ค. 68 | ข่าวมหาวิทยาลัย
    250
  • “เจ้าคุณประสาร” มอง “อ.เบียร์” ขาด “คารวตา” ปมวิจารณ์ “พระเกจิสังขารไม่เปื่อย” ให้สติ “อย่าเป็นชาล้นถ้วย”
    04 ม.ค. 68 | ข่าวมหาวิทยาลัย
    120