สานปณิธาน'หลวงพ่อปัญญา' โบสถ์กลางน้ำ-ร.พ.ศรีนครินทร์
10 ต.ค. 53 | ข่าวมหาวิทยาลัย
284
|
ข่าวมหาวิทยาลัย |
|
สานปณิธาน'หลวงพ่อปัญญา' โบสถ์กลางน้ำ-ร.พ.ศรีนครินทร์ |
วันที่ ๑๐/๑๐/๒๐๑๐ |
เข้าชม : ๗๖๐๗ ครั้ง |
สานปณิธาน'หลวงพ่อปัญญา' โบสถ์กลางน้ำ-ร.พ.ศรีนครินทร์
|
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2550 พุทธศาสนิกชนไทย ต้องเศร้าโศก เมื่อได้รับทราบข่าว 'พระพรหมมังคลาจารย์' หรือหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ พระนักเทศน์นักพัฒนาแห่งวัดชลประทานรังสฤษฏ์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ได้มรณภาพลง
ด้วยความอาลัยที่มีต่อท่าน หลวงพ่อปัญญาได้ตั้งปณิธานในการสร้างสิ่งสาธารณประโยชน์เพื่อชาวไทยไว้ 4 ประการ คือ
1.การสร้างพระอุโบสถกลางน้ำและวัดของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย 2.ศูนย์การแพทย์ปัญญานันทภิกขุ ชลประทาน มศว 3.โครงการโรงพยาบาลศรีนครินทร์ ที่ บ้านเกิด ใน อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง และ 4.โครงการฝึกอบรมพระธรรมทายาท
10 ตุลาคม 2553 ครบ 3 ปีแห่งการจากไปของพระมหาเถระผู้มีคุณูปการต่อวงการพระพุทธศาสนา ณ วันนี้ สิ่งที่หลวงพ่อได้ตั้งปณิธานไว้มีความคืบหน้าไปอย่างไร?
มรดกธรรมที่หลวงพ่อตั้งปณิธานไว้ 'พระธรรมวิมลโมลี' เจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษฏ์ปัจจุบัน รับหน้าที่สืบสานปณิธานให้สำเร็จลุล่วง
พระธรรมวิมลโมลี กล่าวว่า พระอุโบสถกลางน้ำที่หลวงพ่อสร้างให้แก่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เพื่อให้เป็นศูนย์กลางประกอบพิธีทางพระพุทธศาสนา ท่านได้ช่วยมหาวิทยาลัยระดมทุนจัดซื้อที่ดินเพิ่มเติมจากที่มีอยู่เพียง 84 ไร่กว่า สร้างโบสถ์กลางน้ำให้พระเณรที่เรียนที่มหาจุฬาฯ ได้ใช้เป็นสถานที่ทำสังฆกรรมและเพื่อประโยชน์แก่ชาวพุทธทั่วโลก ถือว่าเป็นงานใหญ่ชิ้นสุดท้ายในบั้นปลายชีวิตของหลวงพ่อปัญญา
|
ประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2548 ณ วันนี้ อุโบสถกลางน้ำมีความคืบหน้าในการก่อสร้างไปแล้วกว่าร้อยละ 90 ใช้งบประมาณไปแล้วกว่า 150 ล้านบาท พร้อมที่จะดำเนินการให้แล้วเสร็จเพื่อมอบให้เป็นสมบัติของมหาวิทยาลัยต่อไป
"ที่ตั้งใจไว้ว่าปี 2554 หลวงพ่อจะมีอายุครบ 100 ปี จะประกอบพิธีมอบอุโบสถให้กับมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยในช่วงการจัดงานวิสาขบูชาโลก ตามปณิธานของหลวงพ่อที่ต้องการให้เป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนาของชาวพุทธทั่วโลก"
ด้านการสร้างศูนย์การแพทย์ปัญญานันทภิกขุ ชลประทานนั้น เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 5 สิงหาคม 2553 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ ณ ศูนย์การแพทย์ปัญญานันทภิกขุ ชลประทาน มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ จ.นนทบุรี ซึ่งมีความคืบหน้าในการดำเนินการตามเจตนารมณ์ของหลวงพ่อแล้ว
การสร้าง ร.พ.ศรีนครินทร์ ที่บ้านเกิดของหลวงพ่อปัญญาเมื่อหลวงพ่อมรณภาพแล้ว พระธรรมวิมลโมลี ก็ประสานกับกระทรวงสาธารณสุขเพื่อขออนุมัติสร้างโรงพยาบาล ประกอบกับโชคดีที่โยมถวายที่ดิน 35 ไร่ เพื่อสร้างโรงพยาบาลเมื่อได้ที่ดินแล้วจึงได้ดำเนินการก่อสร้างตามปณิธาน
ปัจจุบันด้านโครงสร้างอาคารต่างๆ ได้ดำเนินการก่อสร้างเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สิ่งที่ยังขาดขณะนี้ คือ เครื่องมือแพทย์มูลค่าประมาณ 28.8 ล้านบาท
โรงพยาบาลที่สร้างเป็นโรงพยาบาล 30 เตียง เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ด้วย อ.ศรี นครินทร์ ยังไม่มีโรงพยาบาล แม้ว่าจะเป็นอำเภอที่มีเศรษฐกิจดี เพราะมีสวนยางพารามาก และเป็นอำเภอที่มีหลายตำบล ประชาชนมีมาก เป็นอำเภอสุดท้ายของ จ.พัทลุง โรงพยาบาลนี้มีชื่อว่า 'โรงพยาบาลศรีนครินทร์' (ปัญญานันทภิกขุ) เพื่อถวายพระเกียรติสมเด็จย่าที่เคยเสด็จฯ มาอำเภอนี้ เป็นอำเภอเดียวทางภาคใต้ที่ใช้พระนามสมเด็จย่า และถือว่าเป็นโรงพยาบาลแห่งแรกที่สร้างในนามหลวงพ่อปัญญา
การฝึกอบรมพระธรรมทายาท การบวชประจำเดือนที่วัดชลประทานรังสฤษฏ์ ปัจจุบันยังคงดำเนินการตามแบบอย่างที่หลวงพ่อเคยทำมา แต่ละเดือนจะมีกุลบุตรสมัครเข้ารับการอุปสมบทไม่ต่ำกว่า 100 คน ได้อบรมถวายความรู้ตลอดระยะเวลา 15 วัน เน้นที่การฝึกวิปัสสนากัมมัฏฐานเพื่อสร้างรากฐานทางด้านจิตใจให้เป็นผู้เข้มแข็งไม่อ่อนไหวไปตามกระแสความเปลี่ยนแปลงของโลก
นอกจากนี้ ที่วัดชลประทานรังสฤษฏ์ ยังได้จัดตั้งสถานีวิทยุคลื่นความถี่ FM 104.75 เปิดดำเนินการมาเกือบสองปีแล้ว สถานีวิทยุนี้สานต่อปณิธานหลวงพ่อ วันหนึ่งเปิดเทปเสียงหลวงพ่อ 2 ชั่วโมง รวมทั้งฝึกพระในวัดที่เป็นมหาเปรียญให้รู้จักจัดรายการธรรมะ สลับกับรายการศูนย์การแพทย์ปัญญานันทภิกขุ และหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
โครงการเหล่านี้ เป็นการสืบสานปณิธานของหลวงพ่อที่บรรดาศิษยานุศิษย์ต่างมุ่งมั่นจะสานต่อให้สำเร็จสมดังเจตนารมณ์ที่หลวงพ่อปัญญาตั้งไว้ แม้ท่านจะละสังขารไปแล้วถึงสามปี
หนังสือพิมพ์ข่าวสด ฉบับวันที่ 10 ตุลาคม 2553 หน้า 29
ฝ่ายประชาสัมพันธ์และเผยแผ่ มจร |
แหล่งข่าว : ส่วนเทคโนโลยีสารสนเทศ |
|