มหาวิทยาลัยประกอบพิธีประสาทปริญญา ประจำปี พ.ศ.๒๕๕๔ ณ อาคาร มวก. ๔๘ พรรษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วังน้อย อยุธยา วันอาทิตย์ที่ ๑ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๔ โดยพระคุณเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เป็นองค์ประธาน ประชาชนกว่า ๓๐,๐๐๐ คนเข้าร่วมงาน เน้นพื้นที่ มจร วังน้อย อาคารทุกอาคารใช้เป็นสถานที่รองรับคณะพระสงฆ์ อุบาสก อุบาสิกา โดยทางมหาวิทยาลัยได้รับการอุปถัมภ์เรื่องภัตตาหารเพลจากคณะแม่ชีทศพร  เทวาพิทักษ์ธรรม วัดพิชยญาติการาม รวมทั้งผู้มีจิตศรัทธาทั่วไป ซึ่งคาดว่า วันพรุ่งนี้ (๑ พฤษภาคม ๒๕๕๔) ซึ่งเป็นวันประสาทปริญญา จะมีพระเถรานุเถระ พระสังฆาธิการ บุคคลสำคัญ ประชาชนทั่วทุกสารทิศร่วมงานจำนวนมาก เพราะฉะนั้นผู้ที่จะมาร่วมงานให้ศึกษาเส้นทางจราจร และปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่จราจร เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย โดยท่านสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร ๐๓๕-๒๔๘-๐๐๐

                  มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์แห่งคณะสงฆ์ไทยที่สมเด็จบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ได้ทรงสถาปนาขึ้น ณ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ กรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นสถาบันการศึกษาพระไตรปิฎกและวิชาชั้นสูง สำหรับพระภิกษุสามเณรและคฤหัสถ์ เมื่อปีพุทธศักราช ๒๔๓๐ เป็นต้นมา และต่อมาในปี ๒๕๔๐ รัฐสภาได้ตราพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยให้สถาบันการศึกษาแห่งนี้ มีสถานะเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐและเป็นนิติบุคคล 
                  ปัจจุบันมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้จัดดำเนินการศึกษาและบริการวิชาการพระพุทธศาสนาแก่สังคม ดังนี้
                   ๑. ระดับบัณฑิตศึกษา เปิดสอนระดับปริญญาเอก ๓ สาขาวิชา และระดับปริญญาโท ๑๔ สาขาวิชา
                   ๒. ระดับปริญญาตรี เปิดสอนใน ๔  คณะ คือ คณะพุทธศาสตร์ คณะครุศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์ และคณะสังคมศาสตร์ เปิดสอน ๓๓ สาขาวิชา 
                   ๓. ระดับประกาศนียบัตรบัณฑิตเปิดสอน ๒ สาขา คือ วิชาชีพครู และ พระไตรปิฎกศึกษา
                   ๔. ระดับมัธยมศึกษา มี ๓ แห่ง คือ โรงเรียนบาลีเตรียมอุดมศึกษา โรงเรียนอบรมศึกษา และโรงเรียนบาลีสาธิตศึกษา
                   ๕. การบริการวิชาการแก่สังคม ได้แก่ อภิธรรมโชติกะวิทยาลัย โรงเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์ สถาบันวิปัสสนาธุระ ฝ่ายธรรมวิจัย ฝ่ายมหาจุฬาอาศรม และศูนย์พัฒนามหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย แคมป์สน

                   มหาวิทยาลัยมีวิทยาเขต ๑๐ แห่ง คือ วิทยาเขตหนองคาย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช วิทยาเขตเชียงใหม่ วิทยาเขตขอนแก่น วิทยาเขตนครราชสีมา วิทยาเขตอุบลราชธานี วิทยาเขตแพร่ วิทยาเขตสุรินทร์ วิทยาเขตพะเยา และวิทยาเขตบาฬีศึกษาพุทธโฆส นครปฐม  วิทยาลัยสงฆ์ ๗ แห่ง คือ วิทยาลัยสงฆ์เลย วิทยาลัยสงฆ์นครพนม วิทยาลัยสงฆ์ลำพูน วิทยาลัยสงฆ์นครสวรรค์ วิทยาลัยสงฆ์พุทธชินราช วิทยาลัยสงฆ์บุรีรัมย์ และวิทยาลัยสงฆ์ปัตตานี     สถาบันสมทบในต่างประเทศ ๖ แห่ง คือ วิทยาลัยพระพุทธศาสนาดองกุก ชอนบอบ ประเทศสาธารณรัฐเกาหลี มหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนา ซิน จู๋ ไทเป ไต้หวัน  สถาบันพระพุทธศาสนานาชาติศรีลังกา ประเทศศรีลังกา ศูนย์การศึกษาพระอาจารย์พรัหม ประเทศสิงคโปร์ วิทยาลัยพระพุทธศาสนาสิงคโปร์ ประเทศสิงคโปร์ และมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนา ธรรมะ เกต บูดาเปสต์ ประเทศฮังการี

                   สถาบันสมทบในประเทศ ๑ แห่ง คือ มหาปัญญาวิทยาลัย วัดถาวรวราราม จังหวัดสงขลา
 นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยได้ขยายการศึกษาระดับปริญญาโทไปยังส่วนภูมิภาคและต่างประเทศ ๗ แห่ง คือ วิทยาเขตเชียงใหม่ วิทยาเขตขอนแก่น วิทยาเขตบาฬีศึกษาพุทธโฆส นครปฐม วิทยาเขตนครราชสีมา วิทยาเขตอุบลราชธานี วิทยาลัยสงฆ์นครสวรรค์ วิทยาลัยพระพุทธศาสนาดองกุก ชอนบอบ ประเทศสาธารณรัฐเกาหลี 

                   มหาวิทยาลัยขยายห้องเรียนระดับปริญญาตรีไปยังจังหวัดต่าง ๆ ๑๐ แห่ง คือ จังหวัดร้อยเอ็ด เพชรบูรณ์ สิงห์บุรี ลำปาง น่าน ศรีสะเกษ สุราษฎร์ธานี ฉะเชิงเทรา กาญจนบุรี และเชียงราย   

                   มหาวิทยาลัยขยายหน่วยวิทยบริการไปยังส่วนภูมิภาค ๑๘ แห่ง คือ จังหวัดสงขลา ราชบุรี สกลนคร มหาสารคาม เพชรบุรี ตาก อุทัยธานี ชัยภูมิ ชลบุรี ระยอง อุตรดิตถ์  กำแพงเพชร พิจิตร  นครปฐม (๒ แห่ง) จันทบุรี สุพรรณบุรี และสระแก้ว  

                   สภามหาวิทยาลัยมีมติอนุมัติให้ปริญญาพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิตรุ่นที่ ๗ พุทธศาสตรมหาบัณฑิต รุ่นที่  ๒๑  โครงการหลักสูตรนานาชาติระดับมหาบัณฑิต รุ่นที่ ๙ และพุทธศาสตรบัณฑิต รุ่นที่ ๕๖  ปีการศึกษา ๒๕๕๒  ดังนี้
                   พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต  จำนวน      ๑๒  รูป/คน
                   พุทธศาสตรมหาบัณฑิต  จำนวน    ๓๕๗  รูป/คน
                   พุทธศาสตรบัณฑิต จำนวน      ๒,๔๓๒ รูป/คน
                   รวมทั้งสิ้น   จำนวน      ๒,๘๐๑  รูป/คน
                   ในปี พ.ศ.๒๕๕๔ นี้ สภามหาวิทยาลัยได้อนุมัติปริญญากิตติมศักดิ์ เข็มเกียรติคุณผู้ทำคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติ พระพุทธศาสนา และสังคม จำนวน ๑๘๓ รูป/คน ประกอบด้วย
                    ปริญญาพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์   จำนวน   ๖๓  รูป/คน
                    ปริญญาพุทธศาสตรมหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์   จำนวน   ๕๖  รูป/คน
                    ปริญญาพุทธศาสตรบัณฑิตกิตติมศักดิ์    จำนวน   ๑๕ รูป/คน
                    เข็มเกียรติคุณ   จำนวน   ๔๙ รูป/คน 
                   ซึ่งจะเข้ารับปริญญากิตติมศักดิ์ เข็มเกียรติคุณผู้ทำคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติ พระพุทธศาสนา และสังคม ในวันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๔ ณ หอประชุม มวก.๔๘ พรรษา มจร วังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

                   อนุเคราะห์เนื้อข่าวโดย พระมหาสุกรี สุจิตฺโต  หัวหน้าฝ่ายบริหารงานทั่วไป กองกลาง สำนักงานอธิการบดี
                    สกู๊ปข่าวโดย พระมหาศรีทนต์ สมจาโร ผู้อำนวยการส่วนหอสมุดกลาง