ข่าวในพระราชสำนักฯ (ประจำวันที่ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๕๔) สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

                   เวลา 09.10 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ องค์การมหาชน อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม ทรงเปิดงานแสดงโครงงานวิทยาศาสตร์สำหรับนักเรียนระดับนานาชาติ ครั้งที่ 7 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11 ถึง 14 ตุลาคมนี้ เพื่อให้นักเรียนจากโรงเรียนวิทยาศาสตร์ และโรงเรียนมัธยมศึกษาชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ ได้เผยแพร่ผลงานแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน รวมทั้งกระตุ้นให้เกิดบรรยากาศทางวิชาการด้านการจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ให้กับเยาวชนไทย ตลอดจนเสริมสร้างมิตรภาพและความสัมพันธ์อันดีระหว่างโรงเรียน นักเรียน ครูที่จัดการเรียนการสอน และผู้มีความสามารถทางคณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ ซึ่งร่วมนำเสนอผลงาน 47 โรงเรียน เป็นโรงเรียนในประเทศ 18 แห่ง และจากต่างประเทศ 29 แห่ง 
                     เวลา 13.50 น. เสด็จพระราชดำเนินไปโรงสีข้าวมูลนิธิชัยพัฒนา ศูนย์สาธิตและพัฒนาพลังงานทดแทนแบบครบวงจร อำเภอลาดบัวหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นศูนย์ช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ประสบภัยน้ำท่วมของมูลนิธิชัยพัฒนา ทรงเยี่ยมราษฎรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมกับพระราชทานถุงยังชีพเรือท้องแบนไฟเบอร์กลาส พร้อมเครื่องยนต์ สุขากระดาษ สุขาลอยน้ำ และทรงเยี่ยมหน่วยแพทย์พระราชทาน ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้คณะแพทย์จากโรงพยาบาลรามาธิบดีออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ให้บริการช่วยเหลือราษฎรที่เจ็บป่วย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น 
                     จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีพื้นที่ประสบอุทกภัยในครั้งนิ้ถึง 16 อำเภอ 148 ตำบล 991 หมู่บ้าน กว่า 65,000 หลังคาเรือน พื้นที่การเกษตรเสียหายกว่า 100,000 ไร่ โอกาสนี้ทรงซักถามความเดือดร้อนของเจ้าหน้าที่ที่มาดูแล และความทุกข์ยากของราษฎร ทรงห่วงใยโรงพยาบาลในพื้นที่ ที่นอกจากจะต้องดูแลรักษาราษฎรที่เจ็บป่วยแล้ว ยังมีภาระเกี่ยวกับศพที่ตกค้างอยู่ในโรงพยาบาล มีพระราชกระแสให้มูลนิธิชัยพัฒนาดูแลประสานงานกับญาติผู้เสียชีวิตว่าต้องการความช่วยเหลือในเรื่องการฌาปณกิจหรือไม่ นอกจากนั้น ยังมีพระราชกระแสให้จังหวัดหาทางผันน้ำเข้าทุ่งภูเขาทองและทุ่งมะขามหย่อง แต่ถ้าป้องกันไม่ได้แล้วให้เร่งดูแลจัดหาที่อยู่อาศัยชั่วคราวที่ปลอดภัยให้ราษฎร ดูแลสัตว์เลี้ยง อาหารการกิน รวมถึงสุขภาพจิต ด้วยการจ้างผู้ประสบภัยมาช่วยทำงานในศูนย์ ดูแลผู้อพยพด้วยกันจะได้ไม่ว่างงาน ไม่เครียด และมีรายได้ในขณะเดียวกัน
                     จากนั้น ทอดพระเนตรโรงครัวของหน่วยครัวเคลื่อนที่ สภากาชาดไทยซึ่งมาประกอบอาหารปรุงสุกพร้อมรับประทาน นำไปแจกจ่ายแก่ประชาชนในพื้นที่อำเภอลาดบัวหลวง และส่งไปยังศูนย์อพยพต่าง ๆ ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา วันละกว่า 1,500 ชุด จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
                       จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สถานที่ตั้งศูนย์ช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ประสบภัยน้ำท่วมของมูลนิธิชัยพัฒนา ซึ่งมีพระราชดำริให้มูลนิธิชัยพัฒนาจัดตั้งขึ้น เพื่อรองรับผู้ประสบภัยที่อพยพออกจากบ้านเรือนที่ถูกน้ำท่วม และเป็นสถานที่รับบริจาคของใช้ที่จำเป็นเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย โอกาสนี้ ทอดพระเนตรครัวของบริษัทการบินไทย จำกัด มหาชน ซึ่งมาประกอบอาหารแจกจ่ายผู้ประสบภัย วันละ 1,000 กล่อง จนกว่าน้ำจะลด และทรงชิมผัดกระเพราไก่สับ ซึ่งเป็นอาหารเลี้ยงดูผู้อพยพในวันนี้ 
                     จากนั้น ทรงเยี่ยมผู้ประสบภัยที่พักอยู่บนชั้น 3 มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย ปัจจุบันมีพระสงฆ์และสามเณรจำพรรษา 101 รูป และมีพระสงฆ์สามเณรที่มาศึกษาพระธรรมวินัยอีก 1,800 รูป ขณะนี้ได้รับผู้ประสบภัยเข้าพักพิง ประมาณ 500 คน ซึ่งมีทั้งเด็ก คนชรา สตรีมีครรภ์ ผู้ป่วย ผู้พิการ ส่วนใหญ่อพยพมาจากนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ และอำเภอวังน้อย ได้มีพระราชดำรัสถามพุทธอาสาสมัครที่มาช่วยดูแลผู้อพยพด้วยทรงห่วงใย สร้างความซาบซึ้งและปลื้มปิติแก่อาสาสมัครทุกคนอย่างยิ่งส่วนผู้พิการซึ่งป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้อลีบกรรมพันธุ์ทั้งครอบครัว มีพระราชกระแสให้แพทย์โรงพยาบาลรามาธิบดีนำตัวไปรักษา และมีรับสั่งถึงนมผงสำหรับเด็กทารกที่พระราชทานให้ว่าอาจจะไม่ใช่นมชนิดเดียวกับที่เด็กรับประทานอยู่ ซึ่งอาจทำให้ท้องเสียได้ แต่ให้เก็บไว้สำหรับเด็กที่รับประทานได้ ส่วนสตรีใกล้คลอด หากเจ็บท้องให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ นอกจากนี้ยังมีครอบครัวที่อพยพมาจากอำเภอบางปะอิน มาเฝ้าทูลละอองพระบาท พร้อมกับร้องไห้ ทรงซักถามด้วยความเป็นห่วง เมื่อทรงทราบว่ายังเรียนหนังสืออยู่ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้รับสั่งว่า เมื่อน้ำลดแล้วให้รีบกลับไปเรียนหนังสือต่อ
                     จากนั้น ทอดพระเนตรหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ของโรงพยาบาลรามาธิบดี หน่วยแพทย์ พอ.สว. และหน่วยแพทย์เคลื่อนที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ที่มาดูแลผู้เจ็บป่วย และโรงครัวประกอบอาหารของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย และโรงเรียนจิตรลดา ที่มาประกอบอาหารแก่ผู้อพยพและเจ้าหน้าที่ จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
                     นอกจากนี้ ยังมีพระราชดำริเพิ่มเติมให้มูลนิธิชัยพัฒนา ประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ประสบภัย ซึ่งในเบื้องต้นได้รับความร่วมมือจากหลายหน่วยงาน เช่น กองทัพบก สภากาชาดไทย โรงเรียนจิตรลดา บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด มหาชน บริษัทไทยยามาฮ่า มอเตอร์ จำกัด ในการจัดหาสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น นำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย ซึ่งวันนี้ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด มหาชน ได้นำสุขาลอยน้ำพระราชทาน มาน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวาย จำนวน 2 ชุดแต่ละชุดมี 2 ห้อง ทั้งแบบชักโครกและนั่งยอง ใช้ได้ถึง 600 ครั้งต่อการสูบทิ้ง 1 ครั้งมีระบบบำบัดน้ำเสียพร้อม 
                     ผู้ประสงค์จะช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยร่วมกับมูลนิธิชัยพัฒนา ติดต่อได้ที่สำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนา อาคาร 608 พระราชวังดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพฯ หรือร่วมบริจาคเงินโดยเสด็จพระราชกุศล เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย สามารถโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสวนจิตรลดา ชื่อบัญชี "ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม" เลขที่บัญชี 067 - 213125-3 เพื่อนำไปจัดซื้อสิ่งของที่จำเป็น และผู้มีจิตศรัทธาที่ต้องการจะบริจาควัตถุดิบสำหรับประกอบอาหาร สิ่งของและเงินช่วยเหลือ บริจาคได้ที่สำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย

แหล่งข่าว : http://www.ch7.com/news/news_royal_detail.aspx?c=1&p=1&d=161286
ค้นข่าวโดย : พระมหาศรีทนต์ สมจาโร ผู้อำนวยการส่วนหอสมุดกลาง