ข่าวมหาวิทยาลัย |
อธิการบดี มจร แนะความกตัญญูคือจุดเริ่มต้นของความสำเร็จ | ||
วันที่ ๒๗/๐๙/๒๐๑๒ | เข้าชม : ๘๓๙๒ ครั้ง | |
มหาจุฬาฯ วังน้อย ๒๖ กันยายน ๒๕๕๕: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยได้จัดงานรำลึกคุณูปการของบุคลากรผู้เกษียณอายุการทำงานขึ้น ณ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย พระนครศรีอยุธยา โดยมี พระธรรมสุธี นายกสภามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เป็นประธานมอบเกียรติบัตรแก่คณาจารย์เจ้าหน้าที่ผู้เกษียณอายุการทำงานจำนวน ๑๐ รูป/คน พระธรรมสุธี กล่าวว่า "มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย มีความเจริรุ่งเรืองมาโดยลำดับ ต้องอาศัยความเสียสละของบุคลากรที่ปฏิบัติงาน ซึ่งปัจจุบัน มหาวิทยาลัยเป็นที่รู้จักโดยทั่วไปในการจัดการศึกษาวิชาการทางพระพุทธศาสนาทั้งในและต่างประเทศ เพราะบุคลากรของมหาวิทยาลัยเป็นบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถมีความเสียสละสามัคคี ร่วมกันดำเนินกิจกรรมของมหาวิทยาลัยให้สำเร็จรุ่นต่อรุ่น ซึ่งเป็นการแสดงถึงศักยภาพการจัดการศึกษาของมหาวิทยาลัยที่มีความเข้มข้นและเข้มแข็ง การที่มหาวิทยาลัยได้แสดงถึงความกตัญญูต่อบุคลากรที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจร่วมกันพัฒนามหาวิทยาลัยเรื่อยมาจนครบเกษียณอายุการทำงาน จึงเป็นการแสดงออกที่ดีอย่างยิ่ง แต่ที่สำคัญ บุคลากรที่ครบเกษียณอายุการทำงานนั้น แม้จะครบวาระการเกษียณแล้ว แต่ขอให้ทุกท่านฝังจิตใจไว้ที่สถาบันแห่งนี้ตลอดไปอย่าลืมเลือน แม้บุคลากรที่ยังไม่ครบเกษียณอายุการทำงานที่ยังคงปฏิบัติหน้าที่อยู่ก็จะรำลึกถึงคุณูปการของท่านเหล่านี้ตลอดไป" ด้าน พระธรรมโกศาจารย์ กล่าวว่า "มหาวิทยาลัยเจริญรุ่งเรืองมาได้ทุกวันนี้เพราะบุคลากรทุกท่านต่างปฏิบัติงานด้วยความทุ่มเทและเสียสละ ทุกท่านล้วนทำงานด้วยความเหน็ดเหนื่อย ปัจจุบันมหาวิทยาลัยแห่งนี้ถือเป็นสถาบันการศึกษาพระพุทธศาสนาในระดับแนวหน้า เป็นที่ยอมรับของสังคมทั้งชาวไทยและต่างชาติ จะไปที่ใดก็ตามหากกล่าวว่าจบการศึกษามาจากมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ล้วนเป็นที่รู้จักและยอมรับอย่างกว้างขวาง ความสำเร็จที่เกิดขึ้นนี้มิใช่เกิดเพราะความสามารถของบุคลากรบุคคลใดบุคคลหนึ่ง แต่ทุกฝ่ายต่างช่วยกันสร้างสรรค์ให้เกิดขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่ปฏิบัติงานจนครบวาระเกษียณอายุการทำงานนี้ จะเป็นผู้ที่เหน็ดเหนื่อยกว่าใครอื่น เพราะเป็นผู้เริ่มมาแต่ครั้งที่มหาวิทยาลัยยังไม่มีความพร้อมในทุกด้าน แต่ท่านเหล่านี้ก็ทุ่มเทเสียสละสร้างให้มหาวิทยาลัยมีความเจริญรุ่งเรืองดังที่ปรากฏในปัจจุบัน" "มหาวิทยาลัยจัดงานและกิจกรรมมากมายโดยเฉพาะในวันนี้ ถือว่าเป็นวันสำคัญวันหนึ่ง ในปีถัดไปควรกำหนดให้เป็นวัน กตัญญู เพราะความกตัญญู ถือเป็นแบบอย่างที่ดี และเป็นบ่อเกิดของความสำเร็จทุกด้าน บุคลากรเหล่านี้ อนุชนรุ่นหลังต้องมีความตัญญูรู้คุณของท่านที่สร้างสรรค์ให้มหาวิทยาลัยมีความเจริญก้าวหน้า บุคลากรเหล่านี้ ควรได้รับการยอมรับยกย่องเป็นผู้มีอุปการะคุณเป็นอย่างยิ่ง ถือเป็นปูชนียบุคลที่สำคัญของมหาวิทยาลัย แม้ทุกท่านจะครบวาระการเกษียณอายุการทำงานแล้วก็ตามแต่ทุกท่านก็ยังคงอยู่ช่วยเราสร้างสรรค์สิ่งที่ดีงามไว้ให้กับอนุชนรุ่นหลังต่อไป" พระธรรมโกศาจารย์ กล่าว สำหรับบุคลากรผู้เกษียณอายุการทำงานประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๕ มีจำนวน ๑๐ รูป/คน ประกอบด้วย ๑. พระสุวรรณเมธาภรณ์ รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา ๒. พระครูโฆสิตปริยัติยาภรณ์ รองอธิการบดี วิทยาเขตเชียงใหม่ ๓. พระครูใบฎีกาสนั่น ทยรกฺโข เจ้าหน้าที่โสตทัศนศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย ๔. พระมหาณรงค์ศักดิ์ ฐิติญาโณ อาจารย์ประจำคณะมนุษยศ่าตร์ ๕. รศ.ดร.ชาติชาย พิทักษ์ธนาคม อาจารย์/รองคณบดีคณะครุศาสตร์ ๖. รศ.ดร.ธีรยุทธ พึ่งเทียร อาจารย์/ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ ๗. แม่ชีอำไพ ตัณฑ์สมบูรณ์ เจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไป บัณฑิตวิทยาลัย ๘. นายวิวรรธน์ สานแสง อาจารย์ประจำโรงเรียนบาลีเตรียมอุดมศึกษา ๙. นายไพฑูรย์ นูมหันต์ อาจารย์ประจำวิทยาเขตเชียงใหม่ ๑๐. นายสุวรรณ เจาลา พนักงานขับรถ วิทยาเขตสุรินทร์ สมหมาย สุภาษิต/ข่าว ฝ่ายประชาสัมพันธ์และเผยแผ่/ภาพ
|
แหล่งข่าว : ส่วนเทคโนโลยีสารสนเทศ | ||