รองอธิการบดีฝ่ายประชาสัมพันธ์และเผยแผ่ ร่วมเสวนาในหัวข้อ ...สงฆ์ไสย... "สงฆ์สัย" ?
03 ก.ค. 56 | ข่าวมหาวิทยาลัย
182
|
ข่าวมหาวิทยาลัย |
|
รองอธิการบดีฝ่ายประชาสัมพันธ์และเผยแผ่ ร่วมเสวนาในหัวข้อ ...สงฆ์ไสย... "สงฆ์สัย" ? |
วันที่ ๐๓/๐๗/๒๐๑๓ |
เข้าชม : ๓๓๕๔ ครั้ง |
สถาบันสงฆ์ร้อนไม่เลิก มีข่าวฉาวแทบไม่เว้นวัน ทั้งพระสงฆ์อวดอุตริ พระสงฆ์ประพฤติผิดในกาม นอกรีตนอกรอยพระพุทธศาสนา ดังนั้น เมื่อค่ำวันที่ 2 กรกฎาคม รายการ "คม ชัด ลึก" จึงได้จัดเสวนาในหัวข้อ ...สงฆ์ไสย... "สงฆ์สัย" ?
พระเมธีธรรมาจารย์ รองอธิการบดีฝ่ายประชาสัมพันธ์และเผยแผ่ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย กล่าวว่า ในวงการคณะสงฆ์ต่างมีความหนักใจกับปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้ เป็นห่วงว่าเวลานี้จะดำเนินการอย่างไรกับวงการพระสงฆ์ สังคมต้องการดูอย่างมาก จะเข้าไปแก้ไขปัญหาอย่างไร ถูกต้องหรือไม่ อันที่จริงฆราวาสก็สามารถตรวจสอบพระสงฆ์ได้ เพราะทุกเรื่องที่เกิดขึ้นในปัจจุบันร้อนแรง หลายคนตั้งคำถามว่า พระสงฆ์ที่ถูกกล่าวหานั้นผิดหรือไม่
อย่างกรณีของ หลวงปู่เณรคำ องค์กรที่ตรวจสอบอาจจะทำงานไม่ทันความรู้สึกของผู้คน ขณะนี้เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ ก็กำลังดำเนินการ ส่วนในเรื่องการเงิน ปปง.ก็ได้เข้ามาดูและกำลังตรวจสอบแล้ว ถึงแม้เจ้าตัวจะอาศัยช่องโหว่ของกฎระเบียบก็ตาม แต่กลไกการตรวจสอบยังคงทำงานอยู่ ถ้าญาติโยมมีข้อสงสัยในการตรวจสอบ ก็สามารถร้องเรียนได้ ซึ่งก็ต้องใช้เวลาสักหน่อยในการติดตามตัวมาสอบถามและดำเนินการต่อไป
ชาวบ้าน ประชาชนจะเชื่อถือการตรวจสอบได้มากน้อยแค่ไหน เพราะพระดังๆ ไม่ใช่ธรรมดา เอาผิดได้ยาก ในเรื่องนี้ จริงๆ แล้วทางคณะสงฆ์จะต้องตรวจสอบอย่างละเอียด ตามขั้นตอน ซึ่งอาจจะล่าช้า ไม่ทันใจผู้ที่ติดตามข่าว แต่อย่างไรตาม หากตรวจสอบแล้วพบว่า ผิด ก็จะมีการดำเนินการไปตามธรรมวินัยสงฆ์
นายสุรพศ ทวีศักดิ์ นักวิชาการ และคอลัมนิสต์ด้านพุทธศาสนา กล่าวว่า การตรวจสอบต้องเป็นไปตามลำดับขั้นตอน องค์กรที่ทำหน้าที่ตรวจสอบพระสงฆ์ก็ต้องทำหน้าที่อย่างเข้มแข็ง โดยใช้ธรรมวินัย ในขณะที่โดยส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับการนำกฎหมายมาใช้ปกครองสงฆ์ เพราะในวงการสงฆ์มีการดำเนินการจัดการกับพระสงฆ์นอกรีตอยู่แล้ว รวมทั้งชาวบ้านก็ร่วมกันดูด้วย ทุกคนสามารถร่วมกันตรวจสอบพระสงฆ์ที่ปฏิบัติไม่ถูกต้องได้
ส่วนเรื่องของอดีตพระมิตซูโอะนั้น ขณะนี้ได้ลาสิกขาเรียบร้อยแล้ว ผู้เกี่ยวข้องในวงการสงฆ์คงจะไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบย้อนหลังอะไรได้
ดร.นพ.มโน เลาหวณิช อาจารย์จาก วิทยาลัยแพทยศาสตร์นานาชาติจุฬาภรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ความประพฤติของพระสงฆ์ที่กำลังเป็นที่กล่าวถึงในทางลบอยู่ขณะนี้ บ้างก็ว่า ขณะนี้วงการสงฆ์เสื่อมลงมาก บ้างก็ว่า พระสงฆ์บางส่วนร่ำรวย บ้างก็อุตริมาบอกว่า พระอินทร์มาเข้านิมิต มาปรากฏให้เห็นสร้างพระแก้วมรกตจำลอง ก็ไม่สามารถทำอะไรได้กับพระเหล่านี้ ยิ่งหากไม่มีองค์กรสื่อเข้ามาตรวจสอบก็จะไม่เป็นที่เปิดเผยให้โลกได้รับรู้ กรณีของ หลวงปู่เณรคำนั้น จะมาอ้างว่า ติดกิจนิมนต์ยาวเหยียดไม่ได้ เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษสามารถสั่งการให้รีบกลับมาให้ดำเนินการตรวจสอบโดย ด่วนได้
สำหรับกรณีอดีตพระมิตซูโอะ หากจะมีการตรวจสอบย้อนหลังต้องถามว่า ตรวจสอบแล้วได้อะไร อาจจะได้ความสะใจของคนบางกลุ่มเท่านั้น เมื่อท่านตัดสินใจสละสมณเพศ ก็เป็นสิทธิ์ของท่าน แต่หากไม่สละสมณเพศ จะกลายเป็นปัญหาใหญ่ จริงๆ แล้วตามธรรมวินัย การเข้าไปอยู่ในห้องสองต่อสองกับสตรี ไม่ได้ จะอาบัติ ในขณะนั้น ลูกศิษย์ผู้ใกล้ชิดสามารถห้ามปรามได้ ก็ต้องย้อนหลังไปด้วยว่า ลูกศิษย์ผู้ใกล้ชิดมีการห้ามปรามหรือไม่
อีกเรื่องจากที่เป็นข่าวใหญ่ไม่แพ้กัน ก็เป็นกรณี หลวงปู่พุทธะอิสระ ประกาศท้าดวลไมค์กับ พระเกษม เรื่องถาม-ตอบ พระธรรมวินัย นั้น ก็สามารถทำได้ ไม่ผิดธรรมวินัยแต่อย่าง แต่ต้องใช้คำพูดที่สุภาพ ไม่ใช้ถ้อยคำรุนแรง ผรุสวาท
ที่มา : คมชัดลึกออนไลน์วันที่ 03-07-2556 |
แหล่งข่าว : ส่วนเทคโนโลยีสารสนเทศ |
|