ข่าวมหาวิทยาลัย |
คณะสงฆ์สารคาม-มหาจุฬาฯ จับมือพัฒนาการศึกษา-วิชาการ | ||||
วันที่ ๑๓/๐๙/๒๐๑๔ | เข้าชม : ๒๖๑๐ ครั้ง | |||
มีพระเทพสิทธาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดมหาสารคาม เป็นผู้ลงนามในฐานะตัวแทนคณะสงฆ์จังหวัดมหาสารคาม และพระเทพสารคามมุนี ลงนามในฐานะประธานหน่วยวิทยบริการ วิทยาเขตขอนแก่น ฝ่ายฆราวาสที่ร่วมเป็นสักขีพยานการ ทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ ครั้งนี้ อาทิ นายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม, นายพงศ์ธนธร ศรีขาว ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดมหา สารคาม เป็นต้น ภายในพิธีมีพระสงฆ์ระดับเจ้าคณะตำบล เจ้าคณะอำเภอ พร้อมพระนิสิต-นักศึกษาเข้าร่วมพิธีกว่า 300 รูป/คน ภายหลังการประกอบพิธีลงนามความร่วมมือทางวิชาการ พระนิสิตนักศึกษา ประกอบพิธีสามีจิกรรม (ไหว้ครู) โดยตัวแทนพระนิสิต นักศึกษานำพานธูปเทียนเข้าถวายสักการะ พระเทพสารคามมุนี ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดมหาสารคาม และ พระเทพสิทธาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดมหาสารคาม และถวายเจ้าคณะอำเภอทั้ง 13 อำเภอ พระครูศรีมหาชยาภิมณฑ์ หัวหน้าฝ่ายกิจการนิสิต หน่วยวิทยบริการ วิทยาเขตขอนแก่น กล่าวถึงวัตถุประสงค์การจัดกิจกรรมครั้งนี้ว่า คณะสงฆ์เมืองมหาสารคาม และมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย หน่วยวิทยบริการวิทยาเขตขอนแก่น มีมติเห็นชอบร่วมกันในการพัฒนาความร่วมมือทางวิชาการ เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่บุคลากรคณะสงฆ์จังหวัดมหาสารคาม ในการผลิตบัณฑิต (พธ.บ.) สนับสนุนให้พระภิกษุ-สามเณร ในเขตปกครองให้ศึกษาต่อมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย หน่วยวิทยบริการวิทยาเขตขอนแก่น จังหวัดมหาสารคาม พระเทพสิทธาจารย์กล่าวกับคณะสงฆ์ร่วมในพิธีว่า การศึกษาของสงฆ์นอกจากพระธรรมวินัยแล้วต้องศึกษาทางโลกซึ่งเป็นการเรียนที่ไม่รู้จบ จึงเป็นที่น่ายินดีที่ทางจังหวัดมหาสารคามให้การสนับสนุน จะส่งผลดีเกิดความมั่นคงด้านศึกษาคณะสงฆ์ ให้สมกับความเป็นตักสิลาอีสาน การลงนามความร่วมมือในวันนี้นับเป็นมงคล เป็นความดีที่จะร่วมมือกันพัฒนาการศึกษาของคณะสงฆ์ ให้เจริญรุ่งเรือง เพราะการศึกษาของคณะสงฆ์ย่อมมีความสำคัญไม่แพ้การศึกษาของทางฆราวาส เพราะต้องมีการพัฒนาให้ทันตามกระแสสังคม "หากพระสงฆ์ตามกระแสสังคมไม่ทันจะเอาความรู้อะไรไปเทศนาสั่งสอนญาติโยม ดังนั้น การลงนามความร่วมมือกันเพื่อพัฒนาการศึกษาคณะสงฆ์ครั้งนี้จึงถือเป็นสิ่งน่ายินดี ที่พระสงฆ์เมืองมหาสารคามจะได้มีความรู้ทันยุคสมัย ตามสภาพสังคมปัจจุบันที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ต่อไปมหาสารคามจะได้ชื่อว่าเป็นเมืองตักสิลาที่สมบูรณ์ที่สุดของภาคอีสาน" ด้านนายนพวัชรกล่าวว่า ภาครัฐขอสนับสนุนการศึกษาของคณะสงฆ์อย่างเต็มที่ สำหรับการขอใช้พื้นที่สาธารณประโยชน์ในเขต ต.คันธารราษฎร์ อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม จำนวน 57 ไร่ สำหรับก่อสร้างมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย หน่วยวิทยบริการวิทยาเขตมหาสารคาม ทางอบต.คันธารราษฎร์ และอ.กันทรวิชัย เห็นพร้อมเพราะเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาของคณะสงฆ์ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการ ขอใช้ประโยชน์จากที่ดินให้ถูกต้องตามขั้นตอนราชการ และเนื่องในปี 2558 มหาสารคามมีอายุครบ 150 ปี นอกจากจะจัดพิธีเฉลิมฉลองแล้วยังจะมีการหาทุนสนับสนุนการศึกษาให้คณะสงฆ์ด้วย สำหรับจำนวนพระนิสิต นักศึกษา จ.มหาสารคาม ที่จบการศึกษาตั้งแต่ปี 2549-2557 หลักสูตรประกาศนียบัตรการบริหารกิจการ คณะสงฆ์ (ป.บส.) จำนวน 611 รูป ตั้งแต่พ.ศ.2549-2556 จบพุทธศาสตรบัณฑิต (พธ.บ.) รวม 103 รูป ในปีการศึกษา 2557 มีจำนวนพระนิสิต-นักศึกษา สาขาพุทธศาสนา ชั้นปีที่ 1-4 รวม 142 รูป สาขารัฐศาสตร์ ชั้นปีที่ 1-3 จำนวน 102 รูป ส่วนหลักสูตรประกาศนียบัตรการบริหารกิจการคณะสงฆ์ (ป.บส.) มีจำนวน 130 รูป รวมพระนิสิต นักศึกษาทั้งสิ้น 393 รูป/คน นอกจากนี้ ยังมีพระนิสิตที่ออกปฏิบัติศาสนกิจ ปีการศึกษา 2557 จำนวน 19 รูป จะเข้ารับปริญญาบัตร ในปี 2558 การลงนามความร่วมมือเพื่อพัฒนาการศึกษาของคณะสงฆ์ครั้งนี้ จะส่งผลดีต่อการจัดการเรียนการสอนของคณะสงฆ์ อันจะทำให้ทันต่อกระแสความเปลี่ยนแปลงของโลกในปัจจุบัน บทความโดย เชิด ขันตี ณ พล
ที่มา; หนังสือพิมพ์ข่าวสด 9 กันยายน 2557 หน้า 28 สมหมาย สุภาษิต ฝ่ายประชาสัมพันธ์และเผยแผ่
|
แหล่งข่าว : ส่วนเทคโนโลยีสารสนเทศ | ||