ข่าวประชาสัมพันธ์
ชี้การเมืองไทยต้องใช้หลักธรรมนำพัฒนา
23 ก.ค. 49 | ข่าวมหาวิทยาลัย
840
ข่าวมหาวิทยาลัย
ชี้การเมืองไทยต้องใช้หลักธรรมนำพัฒนา
วันที่ ๒๓/๐๗/๒๐๐๖ เข้าชม : ๑๓๗๔๖ ครั้ง

     อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยชี้ การเมืองไทยยังไม่พัฒนา เหตุเพราะนักการเมืองขาดธรรมะครองใจ แนะใช้ความอดทน-ความสงบเสงี่ยมสร้างความสามัคคีกลับคืนมา แนะชูเศรษฐกิจพอเพียงแก้ปัญหาชาติ
     (๑๘ ก.ค. ๒๕๔๙) พระธรรมโกศาจารย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) กล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง ธรรมะกับการเมือง ในงานวันบุรพาจารย์ของสมาคมศิษย์เก่า มจร. ที่วัดศรีสุดาราม เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯว่า การเมืองเป็นเรื่องของอำนาจ ทั้งการแสวงหาอำนาจ การรักษาอำนาจ และการใช้อำนาจ ถ้านักการเมืองไม่มีธรรมะแล้ว อำนาจจะอยู่ไม่ยั่งยืน ธรรมะนี้เองทำให้นักการเมืองเป็นรัฐบุรุษ หรือนักการเมืองที่ยังยืนได้ทั้งนี้การเมืองของไทยในระบอบประชาธิปไตยมีความพิเศษเฉพาะแตกต่างจากระบอบการปกครองอื่นทั่วไป เนื่องจากสังคมไทยมีความหลากหลายทางความคิด หลักธรรมะที่ควรนำมาใช้ให้เกิดความสามัคคีและสงบสุขคือหลักขันติและหลักโสรัจจะ คือ ความสงบเสงี่ยมมาใช้
          อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยกล่าวต่อว่า การนำขันติมาใช้ จะช่วยให้นักการเมืองรู้จักยับยั้งตนเองให้ รู้จักฟังผู้อื่น เคารพความคิดเห็นที่แตกต่าง ยอมรับความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ถ้านักการเมืองไม่รู้จักการใช้ขันติแล้ว จะทำให้เกิดความเดือดร้อนแก่สังคม เช่น ใครเขียนบทความวิจารณ์ก็ไปต่อว่าผู้เขียน โทรทัศน์เสนอเรื่องที่ไม่ตรงกับความคิดเห็นของตนเองก็ไปต่อว่าสถานี เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ขณะเดียวกันจะต้องนำหลักโสรัจจะ คือความงบเสงี่ยม มาใช้ควบคู่กันไปด้วย ทำให้คนเป็นคนที่ยอมรับเหตุผล กลายเป็นคนที่มองอะไรรอบด้านเข้าใจหลักความเป็นจริงของชีวิต เช่น การเลือกตั้งใครที่แพ้ต้องยอมรับความว่าแพ้ เป็นฝ่ายค้านไม่ใช่เป็นฝ่ายแค้น เป็นต้น
       การเมืองไทยยังขาดในเรื่องของขันติกับโสรัจจะอยู่ ไม่ว่าจะเป็นตัวผู้นำประเทศ หรือนักการเมืองเอง จึงเกิดปัญหาอย่างที่เป็นอยู่ในขณะนี้ โดยเฉพาะคนที่จะขึ้นมาเป็นผู้นำของประเทศจะต้องมีความอดทนเป็นพิเศษ และใช้อำนาจในทางที่ชอบเพื่อประชาชน รวมทั้งต้องมองให้เห็นว่าทุกฝ่ายมีความเท่าเทียมกัน ไม่ได้เห็นพวกของตนดีกว่า หรือเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้องตัวเอง ไม่มีความกตัญญูรู้คุณ เหมือนสร้างเจดีย์เสร็จก็รื้อนั่งร้านออกเพราะไม่มีประโยชน์แล้ว การเมืองไทยทุกวันนี้เหมือนเสือติดจั่นวนอยู่ที่เดิมพระธรรมโกศาจารย์ กล่าว

ที่มา:หนังสือพิมพ์คมชัดลึก ๑๙ กรกฎาคม ๒๕๔๙



เว็บไซต์อ้างอิง
  Web Link : http://www.parliament.go.th/news/news_detail.php?prid=19185
แหล่งข่าว : ส่วนเทคโนโลยีสารสนเทศ
Print This Page    Sent to Friend
แสดงความคิดเห็น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • พระมหาบัณฑิต ปณฺฑิตเมธี,ป.ธ.๙ ดร. คณบดีคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย มอบหมายให้ พระครูสมุห์วชิรวิชญ์ ฐิตวํโส,ดร. รองคณบดีฝ่ายวิชาการ ปฏิบัติหน้าที่แทน นำเยี่ยมชมการเรียนการสอนการบริหารการจัดการและมอบเกียรติบัตรพร้อมทั้งเป็นผู้ดำเนินรายการอภิปรายร่วมระหว่าง คณะครุศาสตร์ สาขาวิชาสังคมศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และหลักสูตรการศึกษาบัณฑิต สาขาวิชาสังคมศึกษา คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เรื่อง การสอนพระพุทธศาสนาเพื่อพัฒนาพลเมือง ในยุค VUCA WORLD”
    20 ก.พ. 68 | ข่าวมหาวิทยาลัย
    184
  • พลอากาศเอก สถิตย์พงษ์ สุขวิมล ราชเลขาในพระองค์ฯ เปิดงานวิจัย “ประสิทธิผลหลักปฎิบัติธรรมนาวาวัง”
    13 ก.พ. 68 | ข่าวมหาวิทยาลัย
    201
  • สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ ทรงเป็นประธานเปิดงาน “ มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2567” ทรงพระราชทานเกียรติบัตร แก่พระครูสังฆรักษ์จักรกฤษณ์ ภูริปญฺโญ, ผศ.ดร. ประธานศูนย์วิจัยคณะครุศาสตร์
    05 ก.พ. 68 | ข่าวมหาวิทยาลัย
    231
  • ขอเชิญผ้บริหารคณาจารย์ เจ้าหน้าที่ และนิสิต มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และประชาชนทั่วไป เข้าร่วม โครงการนำเสอนผลวิจัย ประสิทธิผลหลักปฎิบัติ 'ธรรมนาวา วัง' และสะท้อนมุมมองพุทธยุวชนต่อพุทธศาสนา วันพฤหัสบดีที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘ ณ อาคาร มวก. ๔๘ พรรษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
    03 ก.พ. 68 | ข่าวมหาวิทยาลัย
    843
  • พระพรหมวัชรธีราจารย์,ศ.ดร. อธิการบดี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เมตตาเป็นประธานปิดโครงการพัฒนาบุคลากรและนิสิตเพื่อเป็นพระวิปัสสนาจารย์ประจำมหาวิทยาลัย
    25 ม.ค. 68 | ข่าวมหาวิทยาลัย
    351