ข่าวมหาวิทยาลัย |
อาจารย์ประจำคณะครุศาสตร์ มจร รับรางวัลผลงานวิจัยดีเด่นและนักวิจัยรางวัลชมเชย 2560 | ||
วันที่ ๒๔/๐๕/๒๐๑๗ | เข้าชม : ๙๒๒ ครั้ง | |
อาจารย์ประจำคณะครุศาสตร์ มจร รับรางวัลผลงานวิจัยดีเด่นและนักวิจัยรางวัลชมเชย 2560 จากสถาบันวิจัยพุทธศาสตร์ มจร
พระทำวิจัยพบศีล5ช่วยลดทำแท้งของวัยรุ่นได้
พระทำวิจัย ปัจจัยจิตสังคมเชิงพุทธที่มีผลต่อการลดพฤติกรรมเสี่ยงต่อการทำแท้งของวัยรุ่นในสังคมไทย พบศีล5ช่วยลดทำแท้งของวัยรุ่นได้ 15ม.ค.2559 พระสรวิชญ์ อภิปญฺโญ,ดร. อาจารย์ประจำและหัวหน้าภาควิชาจิตวิทยาการศึกษาและการแนะแนว คณะครุศาสตร์ จากการศึกษาของศูนย์สร้างเสริมสุขภาพวัยรุ่นของโรงพยาบาลรามาธิบดีประมาณการว่าจะมีวัยรุ่นทำแท้งถึงปีละ 3 แสนคนหรือวันละราว 1,000 คนซึ่งเป็นเรื่องน่ากลัวเพราะมันได้กลายเป็นค่านิยมใหม่ของวัยรุ่นยิ่งเมื่อถามความคิดเห็นต่อไปก็ยิ่งหนาว เพราะ 4.2% บอกว่าเคยคิดขายตัวและถ้าอนุมานกันจริงๆ ก็คาดว่ามีเด็กกว่า 15% คิดขายตัวเพราะมองว่าเรื่องนี้ไม่น่าตำหนิขณะเดียวกันกองโรคเอดส์ของกระทรวงสาธารณะสุขก็รายงานว่ากว่า 50% ของคนที่เป็นเอดส์เป็นวัยรุ่นอายุระหว่าง 15-34 ปี และส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง ขณะที่ สำนักวิจัยแอแบคโพล ได้ทำการสำรวจพฤติกรรมทางเพศของวัยรุ่นอายุ 15-25 ปี จำนวน 1,627 คน พบว่า พฤติกรรมเชิงชู้สาวกับบุคคลเพิ่งรู้จักตามห้างสรรพสินค้า ผับและเธค กล่าวคือวัยรุ่น 40.2% ยอมรับให้จับมือและโอบเอวได้ และมี 13.9% ที่บอกว่ายอมรับได้ถ้าหากมีเพศสัมพันธ์กับคนที่เพิ่งรู้จักที่น่าตกใจคือบุคคลที่ตอบคำถามครั้งนี้ระบุว่าเคยผ่านการมีเพศสัมพันธ์ถึง 24.4 % โดยกว่าครึ่งมีเพศสัมพันธ์มากกว่า 1 คน สิ่งที่น่าตกใจก็คืออดีตผู้ช่วยรัฐมนตรี นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล เคยทำวิจัยในประเด็นเดียวกันพบว่า เด็กนักเรียนไทยระดับมัธยมกว่า 50% มีเพศสัมพันธ์โดยเฉพาะ "เซ็กซ์เอื้ออาทร"ระหว่างเพื่อนจนกลายเป็นคำนิยามของเด็กไทยแล้วในขณะที่อีกการวิจัยหนึ่งพบว่าผู้หญิง 29.9% เคยทำแท้งตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 20 ปี 2.7% เคยทำแท้งขณะเป็นนักศึกษา 70.% มีเพศสัมพันธ์ก่อนอายุ 20 ปี 5% มีเพศสัมพันธ์ก่อนอายุ 15 (ต่ำสุด 11 ขวบ) ในกลุ่มอายุ 15-23 ปี มีพฤติกรรมแลกเปลี่ยนคู่นอนเพิ่มมากขึ้น 50% จากปรากฏการณ์ความรุนแรงของปัญหาการทำแท้งของวัยรุ่นดังกล่าว ทำให้หน่วยงานต่างๆทางสังคมต้องกลับมาศึกษาและหาแนวทางแก้ไขป้องกันพฤติกรรมเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ที่ไม่พึ่งประสงค์ เพื่อป้องกันการทำแท้งของวัยรุ่นอย่างจริงจัง ผู้วิจัยจึงได้ทำการวิจัยเรื่อง "ปัจจัยจิตสังคมเชิงพุทธที่มีผลต่อการลดพฤติกรรมเสี่ยงต่อการทำแท้งของวัยรุ่นในสังคมไทย" โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพการณ์และปัจจัยด้านสังคมเชิงพุทธต่อพฤติกรรมเสี่ยงต่อการทำแท้ง ศึกษาปัจจัยจิตสังคมเชิงพุทธที่มีต่อการลดพฤติกรรมเสี่ยงต่อการทำแท้งของวัยรุ่น ตลอดทั้งทำการวิเคราะห์และเสนอปัจจัยด้านจิตสังคมเชิงพุทธที่มีต่อการลดพฤติกรรมเสี่ยงต่อการทำแท้ง ผลการวิจัยพบว่า วัยรุ่นที่ได้รับการปลูกฝังลักษณะทางพระพุทธศาสนาจากครอบครัวจะมีการปฏิบัติตามหลักคำสอนของศาสนาที่ดี แสดงให้เห็นว่าเมื่อบุคคลได้รับการปลูกฝังลักษณะทางพระพุทธศาสนาจะเป็นผู้ที่มีลักษณะทางพุทธสูงและมักจะเป็นผู้ที่ให้ความสนใจในพุทธศาสนา หลักธรรม คำสอน และสุดท้ายนำไปสู่การปฏิบัติด้วยตนเองซึ่งสะท้อนการได้รับการถ่ายทอดจากครอบครัวนั้นหมายความว่าหากรอบครัวหรือบิดามารดาได้ให้การปลูกฝังลักษณะทางพระพุทธศาสนาที่ดีต่อบุตรย่อมส่งผลต่อการสร้างเสริมลักษณะหรือพฤติกรรมของบุตรให้เป็นไปในแนวทางที่ดีเช่นเดียวกัน ด้านการได้รับการปลูกฝังลักษณะทางพระพุทธศาสนาจากโรงเรียนและสังคมของวัยรุ่นในสังคมไทย พบว่า วัยรุ่นไทยได้รับการปลูกฝังลักษณะทางพระพุทธศาสนาจากโรงเรียนและสังคม โดยภาพรวม ในระดับปานกลาง เมื่อจำแนกเป็นรายข้อและเรียงตามลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปน้อย 3 ลำดับแรก ได้แก่ ระหว่างการเรียนครูมักจะสอดแทรกหลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนาแก่นักเรียนสม่ำเสมอ ผู้บริหาร ครู นักเรียนทุกคน ไปปฏิบัติศาสนกิจที่วัดเดือนละ 1 ครั้ง มีวัดเป็นแหล่งเรียนรู้ การที่ได้เข้าวัด ได้ฟังธรรม หรือการจัดกิจกรรมธรรมะในโรงเรียนช่วยทำให้ข้าพเจ้าเข้าใจในหลักธรรมทางพระพุทธศาสนามีศรัทธามากขึ้น จากผลการศึกษาการปลูกฝังลักษณะทางพระพุทธศาสนาจากโรงเรียนและสังคมดังกล่าวหากพิจารณาในแง่ของสังคมแล้วจะพบว่าเป็นไปในลักษณะของการสนับสนุนทางสังคมให้วัยรุ่นมีความสามารถในการเผชิญกับปัญหาต่างๆ ทางสังคมและดำเนินชีวิตอย่างเข้มแข็งและถูกต้อง ซึ่งการสนับสนุนทางสังคมในลักษณะดังกล่าวมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งดังในการศึกษาถึงปัจจัยทางครอบครัว และพฤติกรรรมทางสังคมของที่มีผลต่อการลาออกกลางคันของนักศึกษาอาชีวะเอกชนในจังหวัดเชียงใหม่ของภุมริน บุญทวี(2548)ซึ่งพบว่าการกล่อมเกลาทางสังคมมีอิทธิพลโดยตรงต่อความคิดของวัยรุ่นโดยเฉพาะในถ้าวัยรุ่นขาดความใกล้ชิดกับบิดามารดา ก็จะแสวงหาต้นแบบจากบุคคลอื่นดังนั้นการอบรมขัดเกลาเยาวชนจากโรงเรียนและสังคมจึงมีความสำคัญ ยิ่งหากเป็นการอบรมขัดเกลาด้วยหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาซึ่งมีอิทธิพลต่อความคิดความเชื่อของวัยรุ่นด้วยแล้วยิ่งส่งผลให้วัยรุ่นมีความสามารถเผชิญปัญหามากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะปัญหาเกี่ยวกับความเสี่ยงเกี่ยวกับเรื่องเพศ ผลการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรที่ศึกษากับพฤติกรรมเสี่ยงต่อการทำแท้งของวัยรุ่นในสังคมไทย พบว่า ลักษณะจิตสังคมเชิงพุทธ มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมเสี่ยงต่อการทำแท้งของวัยรุ่นในสังคมไทย อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยการปฏิบัติตามหลักธรรมมีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมเสี่ยงต่อการทำแท้งของวัยรุ่นในสังคมไทยมากที่สุด
ผลการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณ(Multiple Regression Analysis)เพื่อทำนายการลดพฤติกรรมเสี่ยงต่อการทำแท้งของวัยรุ่นในสังคมไทย พบว่า ตัวแปรอิสระทั้ง 4 ตัวได้แก่ ความเชื่อทางพระพุทธศาสนา การปฏิบัติตามหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา(ศีล5) การปลูกฝังลักษณะทางพระพุทธศาสนาจากครอบครัว และการปลูกฝังลักษณะทางพระพุทธศาสนาจากโรงเรียนและสังคม ร่วมกันทำนายการลดพฤติกรรรมเสี่ยงต่อการทำแท้งของวัยรุ่นในสังคมไทยได้ร้อยละ 55.1 และเมื่อพิจารณาตัวแปรอิสระที่มีอำนาจในการทำนายการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเสี่ยงต่อการทำแท้งของวัยรุ่นได้ดีที่สุด คือ การปฏิบัติตามหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา (ศีล 5) ที่มา : http://www.komchadluek.net/news/amulets/220647 ขอขอบคุณ: ภาพ/ข่าว จาก เว็บไซต์ข่าว คม ชัด ลึก |
แหล่งข่าว : ส่วนเทคโนโลยีสารสนเทศ | ||