‘มจร’เปิดรับบริจาคบูรณะ อาคารพิษพายุ’ปาบึก’ เครือข่ายองค์กรชาวใต้ฯ ในกรุงเทพฯ และปริมณทล เตรียมจัดงานระดมทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัย
วันที่ 6 ม.ค.2562 ตามที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) วิทยาเขตนครศรีธรรมราชและประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อนจากพายุปาบึก ขณะเดียวกัน พายุได้สร้างความเสียหายแก่อาคารปฏิบัติธรรม และอาคารเรียนในพื้นที่วิทยาลัยศรีโสภณ และอาคารเรียนแห่งใหม่ ณ อำเภอบางสะพาน
โอกาสนี้ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้เชิญชวนประชาคม มจร และทุกภาคส่วนได้ร่วมกันบริจาคทุนทรัพย์ เพื่อสมทบทุนในการซ่อมแซมอาคารปฏิบัติธรรมและอาคารเรียนเพื่อให้ทันต่อการศึกษาของพระภิกษุสามเณรในภาคการศึกษาที่ 2 ต่อไป โดยสามารถบริจาคได้ที่..กลุ่มงานธรรมวิจัย ส่วนธรรมนิเทศ ห้อง 106 วัดมหาธาตุฯ และอาคารหอฉัน ชั้น 1. มจร วังน้อย หรือ ธนาคารทหารไทย สาขาท่าพระจันทร์ เลขที่บัญชี 155-1-07032-7 “มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย” ในเบื้องต้นนี้ พระราชปริยัติกวี ศ.,ดร. อธิการบดี มจร บริจาค 50,000 บาท
พร้อมกันนี้ พระราชปริยัติกวี จะเดินทางไปที่ มจร วิทยาเขตเขตนครศรีธรรมราชเพื่อให้กำลังใจผู้บริหาร อาจารย์ เจ้าหน้าที่และประชาชนทั่วไปในวันที่ 11 ม.ค.2562 นี้
องค์กรชาวใต้จัดงานระดมทุนช่วยผู้ประสบภัยจากพายุโซนร้อน“ปาบึก”
ขณะเดียวกัน พล.ต.อ.สุนทร ซ้ายขวัญ นายกสมาคมชาวปักษ์ใต้ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นประธานการประชุมเครือข่ายองค์กรชาวใต้ ในกรุงเทพฯ และปริมณทล เตรียมการจัดงานระดมทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัย วาตภัย อุทกภัย พายุปลาบึก ซึ่งมีสมาพันธ์จิตอาสาชาวใต้ สมาคมชาวใต้จังหวัดต่างๆ และชมรมองค์กรชาวใต้เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง
ภายหลังการประชุม ดร.เกล้าสรวง สุพงษ์ธร ประธานสมาพันธ์จิตอาสาชาวใต้ กล่าวเปิดเผยว่า ที่ประชุมมีมติร่วมกันให้เปิดศูนย์รับบริจาคทรัพย์และเครื่องอุปโภคบริโภค ช่วยเหลือผู้ประสบภัย พายุปาบึก และจะจัดรายการพิเศษโดยใช้ชื่อรายการว่า”รวมน้ำใจไทย ช่วยวาตภัย ปลาบึก”เพื่อหารายได้ช่วยเหลือราษฎรที่ประสบภัยดังกล่าว โดยกำหนดจัดรายการพิเศษทางสถานีโทรทัศน์กรมประชาสัมพันธ์ ช่อง11ในวันศุกร์ที่11มกราคม 2562เวลา22.00-24.00น.
ทั้งนี้ ในรายละเอียด ดร.สุเมต สุวรรณพรหม รองประธานมูลนิธิร่วมพัฒนาภาคใต้ กล่าวว่า พายุ ปาบึก ได้เข้ามาในครั้งนี้ นอกจากทำลายบ้านเรือนได้รับความเสียอย่างมากมายแล้ว ยังทำลายพื้นที่ทางการเกษตรไปอย่างมากมายโดยเฉพาะ พื้นที่ปลูกผลไม้ที่สร้างรายได้หลักของเกษตรกรสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช คือเงาะ ทุเรียน มังคุด ที่กำลังออกดอกออกผล ซึ่งจะกระทบต่อรายได้ระยะยาวของเกษตรกรชาวใต้ซึ่งเป็นการซ้ำเติมที่ผ่านมาที่ราคาพืชผลทางการเกษตร อย่างปาล์มน้ำมัน และยางพารา ตกต่ำมาอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ นายสุรพล เลอวิศิษฐ์ ที่ปรึกษาสมาคมชาวปักษ์ใต้ฯได้กล่าวย้ำว่า การสูญเสียด้านร่างกายและชีวิต หลังการเกิด พายุปาบึก เนื่องจากว่าเกิดการตื่นตัวของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะสื่อมวลชนที่ได้ให้ความสำคัญได้นำเสนอข่าว พายุปาบึกอย่างต่อเนื่อง ทำให้การป้องกันเหตุอันตราย ที่จะทำให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิต จึงเกิดขึ้นน้อยมาก ตนจึงขอขอบคุณสื่อมวลชนมาณโอกาสนี้ด้วย
สำหรับ ประชาชนทั่วไปสามารถร่วมบริจาคเงิน และสิ่งของได้ที่สถานีโทรทัศน์ช่อง11กรมประชาสัมพันธ์ตั้งแต่เวลา 20.00น.เป็นต้นไป และสามารถโอนเงินเข้าบัญชีมูลนิธิร่วมพัฒนาภาคใต้ ธนาคารทหารไทย สาขาราชประสงค์ เลขที่บัญชี 011 2486 972
Cr.เฟซบุ๊ก เฉลียว คงตุก