ข่าวประชาสัมพันธ์
สิ่งดีๆ ที่ได้รับจากงานทำบุญอายุวัฒนมงคล
10 พ.ย. 63 | ข่าวมหาวิทยาลัย
2284


ไปแล้วได้อะไรกลับมาหลายอย่าง นอกเหนือจากความรู้สึกปีติที่ได้ไปกราบถวายมุทิตาจิตท่านเจ้าคุณพระเทพปวรเมธี


ประการแรก ได้มีโอกาสฟังนักเทศน์บรมครู เจ้าสำนักนักเทศน์ลีลาสาริกาป้อนเหยื่อ พระเดชพระคุณพระพรหมบัณฑิต กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาส ที่ได้กล่าวสัมโมทนียกถาอำนวยพรแก่ท่านเจ้าคุณพระเทพปวรเมธี


พระเดชพระคุณพระพรหมบัณฑิต ได้นำหลักการประเมินคุณภาพการศึกษาของมหาวิทยาลัย คือ ไอพีโอไอ (IPOI) มาเป็นเครื่องชี้วัดคุณภาพของพระเทพปวรเมธี ด้วย โดยได้ชี้ให้เห็นว่า พระเทพปวรเมธี คุณภาพครบทั้งสี่ประการ คือ

I= Input ปัจจัยนำเข้า เป็นผู้มีความรู้ความสามารถ จบการศึกษาในระดับปริญญาเอกและดำรงตำแหน่งรองศาสตราจารย์ ทั้งยังพัฒนาตนตลอดเวลา มีความรู้ทั้งด้านการบริหารและวิชาการ ทั้งในแวดวงมหาวิทยาลัยและคณะสงฆ์

P = Process กระบวนการในการนำความรู้ความสามารถให้ผลิดอกออกผล ผลลัพธ์หรือผลผลิต ท่านไม่ได้ทำงานคนเดียว ทำเองก็ได้ บริหารกิจการให้คนอื่นทำให้ก็ได้ (อลัง กาตุง อลัง สังวิธาตุง) ตัวอย่างใกล้ตัวคือวัดมหาจุฬาฯ ท่านได้เข้ามาดูแลตั้งแต่ต้น ดำเนินการทุกอย่าง ตั้งแต่การสร้างอุโบสถกลางน้ำ ศาลาการเปรียญ และหมู่กุฏิสงฆ์ โดยรวบรวมศรัทธาจากทุกฝ่ายจนประสบผลสำเร็จ ยกฐานะเป็นวัดที่ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว


O = Output ผลผลิต ผู้ที่มีความรู้ความสามารถก็ย่อมมีผลงานในทุกที่ที่เกี่ยวข้อง ส่วนตัวของท่านก็มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ เป็นนักบริหาร นักวิชาการ นักเทศน์ นักพูด นักเขียนและนักวิจัย เปรียบเสมือน "หินที่กลิ้ง ตะไคร่น้ำไม่จับ"

I = Impact ผลกระทบ เห็นได้ชัดเจนว่างานที่ท่านทำ ไม่ว่าต่อ มจร ต่อคณะสงฆ์ และต่อสังคม โดยเฉพาะต่อวัดมหาจุฬาฯ ได้บริหารผ่านสาธุชนจนทำให้งานประสบความสำเร็จ


ประการที่สอง ได้หนังสือโมเดลต้นแบบนวัตกรรม มจร "สู้ภัยโควิด -19" จากการที่ พระเดชพระคุณพระพรหมบัณฑิต ได้กล่าวว่าท่านเจ้าคุณพระเทพปวรเมธี เป็นนักวิจัยด้วย หนังสือเล่มนี้เป็นตัวอย่าง เป็นหนึ่งในร้อยของผลงานวิจัยของท่าน


โดยที่ท่านเจ้าคุณพระเทพปวรเมธี เป็นรองอธิการบดีฝ่ายบริหารของ มจร งานวิจัยเรื่องนี้จึงเก็บข้อมูล วิเคราะห์และนำมาสู่การปฏิบัติตนของบุคลากรและผู้ที่เข้าไปติดต่อประสานงานกับ มจร นั่นแหละครับ

หนังสือเล่มนี้ได้เสนอองค์ความรู้จากการวิจัยแสดงโมเดลต้นแบบนวัตกรรมที่ได้จากการถอดบทเรียนเชิงพื้นที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการสู้ภัยสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโคโรน่า 2019 ปรากฏการที่เกิดขึ้นใน มจร ตามแนววิถีใหม่ (New Normal)

ทำให้ได้รูปแบบการปรับตัวในกาบริหารจัดการสู้ภัยสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า 2019 (Covid-19)

โมเดลที่ได้คือโมเดลต้นแบบนวัตกรรมสัตตวิธีตามแนววิถีใหม่สู้ภัยโควิด-19 คือวิธีการปรับตัว 7 วิธี คือ วิธีการใช้ชีวิตวิถีใหม่ที่ใส่ใจในการดูแลสุขภาพมากขึ้น วิธีการทำงานของบุคลากรในวิถีใหม่ที่ใช้การสื่อสารออนไลน์เป็นหลัก

วิธีการจัดการเรียนการสอนตามแนวที่ใช้การเรียนรู้ออนไลน์แบบผสมผสาน (Online Blended Learning) วิธีการจัดการงานวิจัยและวิชาการวิถีใหม่เน้นการทำงานทางออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบ วิธีการสื่อสารสาธารณะธรรมวิถีใหม่เน้นการมีระยะห่างทางสังคม (Social Distancing)

วิธีการแสดงออกถึงน้ำใจคนไทยในวิถีใหม่ด้วยการแบ่งปันผ่านตู้ปันน้ำใจ และวิธีการอยู่ร่วมกันในมหาวิทยาลัยตามแนววิถีใหม่อย่างวิถีพุทธ (Buddhist New Normal)

นอกจากนั้น ยังกำหนดมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคของ มจร ไว้ 5 ข้อ คือ มาตรการด้านการปฏิบัติงานของบุคลากรของมหาวิทยาลัย โดยให้สามารถปฏิบัติงานจากบ้านและจัดวาระสลับวันเข้าปฏิบัติงาน มาตรการด้านการจัดการศึกษา กำหนดให้จัดการเรียนการสอนและการสอบแบบออนไลน์

 มาตรการดูแลบุคลากรและนิสิตที่พักในมหาวิทยาลัย โดยมีมาตรการกำกับดูแลอย่างเข้มข้น มาตรการค้นการสื่อสารต่อสาธารณชน และมาตรการการบริหารจัดการภายในพื้นที่ มจร

มาตรการทั้ง ๕ ข้อ นี้ดำเนินการโดยมีศูนย์ควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ของ มจร ซึ่งมีท่านเจ้าคุณพระเทพปวรเมธี เป็นประธาน

คงนำสาระสำคัญทั้งหมดในหนังสือดังกล่าวมาลงไม่ได้หรอกครับ แต่หากท่านที่สนใจก็หาอ่านได้ทั้งหมดในอีบุ๊ก (e-Book) ที่ http:/online.anyflip.com/jiegq/uvdp/mobile/index. html


 

ทั้งในเล่มและในอีบุ๊กนั้น มีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษด้วยครับหน่วยงานใดประสงค์จะนำไปปรับใช้ก็ไม่น่ามีปัญหา เพราะท่านเจ้าคุณพระเทพปวเมธี ได้เผยแพร่ทางอีบุ๊กแล้วเจตนาของท่านคงต้องการมอบเป็นวิทยาทานให้ทุกคน ทุกหน่วยงานนำไปปรับใช้ได้ตามต้องการ

ผู้เขียนก็ขออนุโมทนาสาธุการกับท่านเจ้าคุณพระเทพปวรเมธี ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วย

พุธทรัพย์ มณีศรี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • พระมหาบัณฑิต ปณฺฑิตเมธี,ป.ธ.๙ ดร. คณบดีคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย มอบหมายให้ พระครูสมุห์วชิรวิชญ์ ฐิตวํโส,ดร. รองคณบดีฝ่ายวิชาการ ปฏิบัติหน้าที่แทน นำเยี่ยมชมการเรียนการสอนการบริหารการจัดการและมอบเกียรติบัตรพร้อมทั้งเป็นผู้ดำเนินรายการอภิปรายร่วมระหว่าง คณะครุศาสตร์ สาขาวิชาสังคมศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และหลักสูตรการศึกษาบัณฑิต สาขาวิชาสังคมศึกษา คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เรื่อง การสอนพระพุทธศาสนาเพื่อพัฒนาพลเมือง ในยุค VUCA WORLD”
    20 ก.พ. 68 | ข่าวมหาวิทยาลัย
    346
  • พลอากาศเอก สถิตย์พงษ์ สุขวิมล ราชเลขาในพระองค์ฯ เปิดงานวิจัย “ประสิทธิผลหลักปฎิบัติธรรมนาวาวัง”
    13 ก.พ. 68 | ข่าวมหาวิทยาลัย
    246
  • สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ ทรงเป็นประธานเปิดงาน “ มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2567” ทรงพระราชทานเกียรติบัตร แก่พระครูสังฆรักษ์จักรกฤษณ์ ภูริปญฺโญ, ผศ.ดร. ประธานศูนย์วิจัยคณะครุศาสตร์
    05 ก.พ. 68 | ข่าวมหาวิทยาลัย
    259
  • ขอเชิญผ้บริหารคณาจารย์ เจ้าหน้าที่ และนิสิต มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และประชาชนทั่วไป เข้าร่วม โครงการนำเสอนผลวิจัย ประสิทธิผลหลักปฎิบัติ 'ธรรมนาวา วัง' และสะท้อนมุมมองพุทธยุวชนต่อพุทธศาสนา วันพฤหัสบดีที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘ ณ อาคาร มวก. ๔๘ พรรษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
    03 ก.พ. 68 | ข่าวมหาวิทยาลัย
    870
  • พระพรหมวัชรธีราจารย์,ศ.ดร. อธิการบดี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เมตตาเป็นประธานปิดโครงการพัฒนาบุคลากรและนิสิตเพื่อเป็นพระวิปัสสนาจารย์ประจำมหาวิทยาลัย
    25 ม.ค. 68 | ข่าวมหาวิทยาลัย
    378