ถึง อ.สุรพศ ทวีศักดิ์ อ.สมฤทธิ์ ลือชัย และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกท่าน (อีกรอบ)
จากกรณีที่อ.สุรพศ ได้วิพากษ์มหาวิทยาลัยสงฆ์และอาตมาได้ออกมาอธิบายความแล้วนั้น บัดนี้ได้มีสื่อมวลชนให้ความสนใจนำไปเสนอข่าวตามสื่อต่างๆพอสมควรและก็มีผู้คนเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นตามแพล็ตฟอร์มต่างๆ เป็นจำนวนมาก บ้างก็เห็นด้วย ให้กำลังใจ บ้างก็แสดงความเห็นกลางๆ บางท่านก็ต่อว่าต่อขานเรื่องทำนองนี้ถือเป็นปกติธรรมดาเป็นไปตามโลกธรรม 8 ไม่ใช่ปัญหาเพราะอาตมาได้พูดไว้ก่อนหน้านี้ว่ารู้อยู่แล้วว่าจะเปียกปอน แต่ก็ต้องออกมาจากมุมเพราะเราอยู่ในสถาบันการศึกษานี้ เราบริหารจัดการอยู่ที่นี่เมื่อมีคนถาม เราก็ต้องตอบจะให้ใบ้กินได้อย่างไร เมื่อตอบไปแล้วก็ยินดีรับฟังเสียงสะท้อน ยินดีรับฟังความเห็นที่แตกต่าง ส่วนตัวนั้นอาตมายืนยันว่าชินกับการแสดงความเห็นต่าง อะไรดี อะไรเป็นข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ก็พร้อมจะนำไปใช้ ไปปรับปรุงแก้ไข ไม่ใช่ชาล้นถ้วย อะไรคือเหยียด อะไรคือหมิ่น และประเด็นไหนที่เข้าใจผิดก็ต้องตอบกันไป แม้จะมีหนักบ้าง เบาบ้างอันนี้ก็ธรรมดาอีกนั่นละ อาจารย์สมฤทธิ์ ไม่ต้องห่วงในประเด็นนี้หรอก ยินดีรับฟังเสมอ ส่วนอาจารย์สุรพศ นั้นอาตมาแปลกใจนิดหน่อยพอคล้อยหลังได้ไม่นานก็โพสต์อีกว่า “เราจะเถียงกับนักบวชด้วยเหตุผลได้อย่างไร ในเมื่อนักบวชจับประเด็นไม่เป็น แม้ประเด็นไหนชมประเด็นไหนติยังจับไม่ถูก” ดังนั้นอาตมาจึงอยากจะบอกอาจารย์สุรพศว่า“อาตมาจะถกเถียงกับอดีตนักบวชด้วยสติปัญญาได้อย่างไร เมื่อฟังไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียด“ อาจารย์สุรพศ ลองกลับไปอ่านทบทวนเนื้อหาสาระของอาตมาให้ดี อาตมาพูดถึงผลผลิตใหม่ ผู้มีภูมิปัญญาพุทธใหม่ๆ ที่เราผลิตออกมา อาจารย์ยกย่องคนรุ่นเก่าอันนี้เข้าใจได้ แต่ในขณะเดียวกันอาจารย์ก็กล่าวหาการบริหารมหาวิทยาลัยสงฆ์ในยุคใหม่ทำนองว่าผลิตผลใหม่ไม่มีคุณภาพมิใช่หรือ แล้วอาตมาไร้ปัญญาในการจับประเด็นมาตอบตรงไหน อย่างไร นี่เรื่องแรกที่ทำให้ประหลาดใจนิดหน่อยประหลาดใจกับคนที่มีแนวคิดหัวก้าวหน้า คนที่มีความรู้ด้านวิชาการจนสามารถนำไปถกกับคนรุ่นใหม่ได้ และถ้าจะถือตรรกะโดยการยกตัวอย่างบิ๊กเนมหรือศิษย์เก่าในอดีตที่มีชื่อเสียงมาข่มคนรุ่นหลังแล้วสรุปว่าการศึกษาล้มเหลวนะ เวลานี้การศึกษาทั่วโลกก็น่าจะล้มเหลวกันหมด ผู้คนแทบจะไม่มีความรู้ความสามารถอะไรเลย เพราะปัจจุบันนี้ยังไม่เห็นว่าจะมีใครเทียบได้กับอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ซึ่งถ้าจะสรุปตามตรรกะนี้ และต่อมาอาจารย์สุรพศก็พูดถึงคำสอนของพระพุทธองค์ที่เป็นเรื่องสิทธิมนุษยชนถามอาตมาว่าจะตอบคำถามนี้อย่างไร ส่วนอาจารย์สมฤทธิ์ นั้นเสนอให้อาตมาโต้วาทีกันไปเลยต่อมาก็พูดเรื่อง ปรโตโฆสะ และยังตั้งคำถามเรื่องห้ามพระนิสิตยุ่งการเมือง แล้วผู้บริหารมหาวิทยาลัยสงฆ์ยุ่งการเมืองไหม แล้วอาตมายุ่งการเมืองไหม
ในรอบนี้อาตมายืนยันว่าจะตอบเฉพาะเรื่องคุณภาพของมหาวิทยาลัยสงฆ์ก่อน เพราะเหตุมันเริ่มมาจากเรื่องนี้ทั้งอาจารย์สุรพศและอาจารย์สมฤทธิ์ ล้วนพุ่งเป้ามาเรื่องนี้ เรื่องกล่าวหาโดยรวมว่ามหาวิทยาลัยสงฆ์ในยุคนี้ไม่มีคุณภาพ อาตมายืนยันว่า วันนี้มหาวิทยาลัยสงฆ์สองแห่งเดินบนเส้นทางแห่งคุณภาพเดินมาไกลพอสมควรแล้วจากบทสรุปของการประกันคุณภาพการศึกษา ไม่ใช่พูดเอง เออเอง วันนี้เราเป็นมหาวิทยาลัยในกลุ่มที่ 4 กลุ่มพัฒนาปัญญาด้วยหลักศาสนาซึ่งมียุทธศาสตร์ที่มุ่งสู่เป้าหมาย ดังนี้
1.มุ่งพัฒนาบัณฑิตให้เป็นผู้มีสติปัญญาและคุณธรรมด้วยการจัดการเรียนการสอนที่ผสานหลักศาสนากับหลักวิชาการ
2.ให้ความสำคัญกับการวิจัยและสร้างนวัตกรรม โดยยึดหลักศาสนาให้เหมาะสมกับสังคมที่เปลี่ยนไปและสร้างหลักวิชาการที่สอดคล้องกับหลักศาสนาเป็นทางเลือกคู่กับหลักวิชาการของประเทศตะวันตก
3.นำหลักธรรมของศาสนาต่างๆมาชี้นำสังคมโดยมุ่งพัฒนาจิตใจสติปัญญาและพฤติกรรมของประชาชนเพื่อให้เกิดสันติสุขและสามัคคีของคนในชาติ
วันนี้ในฐานะผู้บริหารมหาวิทยาลัยสงฆ์รูปหนึ่ง ซึ่งเป็นฟันเฟืองเล็กๆ ในมหาวิทยาลัย อาตมาสามารถพูดและยืนยันได้ว่า เราเห็นเป้าหมายและเดินหน้ามาถูกทางและก็ได้เดินทางมาไกลมากแล้ว ส่วนท่านจะวิพากษ์อย่างไร เห็นอย่างไร เรายินดีรับฟังและนำไปปรับใช้ในการบริหารมหาวิทยาลัยสงฆ์ นี่คือข้อเท็จจริง
ในส่วนคำถามหรือการตั้งข้อสังเกตุอื่นๆเช่นเรื่องการเมือง การไม่มีสิทธิเสรีภาพในหมู่นิสิต การไม่เกื้อหนุนประชาธิปไตย ห้ามนิสิตยุ่งการเมือง ผู้บริหารยุ่งไหม และเจ้าคุณประสาร ยุ่งการเมืองไหม ถ้าท่านเอื้อนเอ่ยเป็นปุจฉามาอีกรอบค่อยว่ากัน ชั้นนี้ว่าด้วยคุณภาพของมหาวิทยาลัยสงฆ์ตามที่ท่านปรารถนาอยากจะรู้เสียก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากัน
วันที่ 14 ธันวาคม 2566
#เจ้าคุณประสาร
ที่มา : Thebuddh
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid02T8n7guCLQsKGdLHzdYbZ3fW1T8N7Ydvnd1wmVahpEioqrALQT5qjUXxgEdGQGBJDl&id=100044373672072
----------------------
1.thebuddh:https://thebuddh.com/?p=75944