ข่าวมหาวิทยาลัย |
อธิการบดี มจร ชี้พุทธศาสนาและวิทยาศาสตร์ต่างส่งเสริมซึ่งกันและกัน | ||
วันที่ ๑๔/๑๑/๒๐๐๙ | เข้าชม : ๘๐๘๙ ครั้ง | |
เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ที่คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล พระธรรมโกศาจารย์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้ปาฐถาพิเศษ เรื่อง "พุทธศาสนาและวิทยาศาสตร์ สร้างสรรค์วัฒนธรรมแห่งปัญญา" ในการประชุมเสวนาเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ในมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา 5 ธันวาคม 2552 อธิการบดี มจร กล่าวว่า พระพุทธศาสนาและวิทยาศาตร์ต่างมีเป้าหมายคือการแสวงหาความจริง พระพุทธศาสนาถือว่าปรากฏการณ์ในโลกนั้น ช่วยให้เข้าถึงธรรมะทั้งสิ้น มองโลกให้เป็นเราก็เห็นธรรม ด้านไอสไตล์ก็กล่าวว่า สิ่งที่ค้นพบในทางวิทยาศาสตร์น่าจะช่วยให้นักการศาสนาให้สามารถอธิบายศาสนาได้ง่ายยิ่งขึ้นและช่วยให้นักวิทยาศาสตร์หันมาสนใจศาสนามากขึ้นอีก พระพุทธศาสนามองโลกในแง่ความเป็นจริง หรือสัจจธรรม ทั้งนี้ พระพุทธศาสนาได้กล่าวถึงสัจจธรรม คือความเป็นจริงของธรรมชาติมากว่า 2,500 ปีแล้ว ความเป็นจริงทางพระพุทธศาสนาและความเป็นจริงทางวิทยาศาสตร์ต่างเสริมซึ่งกันและกัน ปัจจุบัน เราขาดการประยุกต์ใช้หลักทางพระพุทธศาสนาและวิทยาศาสตร์เข้าด้วยกัน โดยมองว่า เรื่องของพระพุทธศาสนาเป็นสิ่งไกลตัว อีกทั้งไม่สนใจด้านวิทยาศาสตร์เพราะคิดว่าเป็นเรื่องที่เข้าใจยาก แท้จริงแล้ว ทั้งพระพุทธศาสนาและวิทยาศาสตร์ เป็นสิ่งที่นำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้ นอกจากนี้ การศึกษาวิทยาศาสตร์ต้องใช้หลักทางพระพุทธศาสนาเข้ากำกับเพื่อเสริมคุณธรรม จริยธรรมในจิตใจ พระพุทธศาสนาสอนให้มนุษย์ลดอัตตา วิทยาศาสตร์ก็เช่นเดียวกัน ไม่ใช่ศึกษาเพื่อเกิดปัญญาเท่านั้นแล่ควรจะศึกษาเพื่อให้เกิดกรุณาโดยเฉพาะสาขาแพทย์ศาสตร์ ซึ่งต้องมีจิตใจที่กรุณาต่อมวลมนุษยชาติมากกว่าเกิดปัญญาเพื่อสร้างผลประโยชน์แก่ตนเอง ถ้าเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นพุทธศาสนาหรือวิทยาศาสตร์ต่างก็มุ่งเพื่อประโยชน์ของคนหมู่มากเป็นหลักสำคัญ" อธิการบดี มจร กล่าว |
แหล่งข่าว : ส่วนเทคโนโลยีสารสนเทศ | ||