ข่าวมหาวิทยาลัย |
มจร วิทยาเขตเชียงใหม่จัดประชุมพุทธ-คริสต์ สร้างสันติภาพ | ||
วันที่ ๐๓/๐๒/๒๐๑๐ | เข้าชม : ๖๙๔๓ ครั้ง | |
วัดพระธาตุศรีจอมทอง เชียงใหม่: 1 กุมภาพันธ์ 2553 จากการประชุมเสวนาวิชาการพระพุทธศาสนา-คริสตศาสนา ครั้งที่ 4 ณ วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ เมื่อเร็วๆนี้ พระสุธีวรญาณ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการต่างประเทศ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร.) กล่าวว่า หัวข้อหลักของการประชุมครั้งนี้คือ “การตอบสนองต่อความท้าทายในยุคโลกาภิวัตน์ของศาสนา” ประกอบด้วยประเด็นย่อยของการเสวนา ดังนี้ 1 ความล่มสลายแห่งคุณค่า 2 ความทุกข์ร่วมสมัยของชายหญิง และ3 วิกฤติทางการเงินและความเสมอภาคแห่งความมั่งคั่ง อีกทั้งผู้เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ซึ่งมาจากกว่า 20 ประเทศทั่วโลก จะได้ฝึกเจริญจิตภาวนา ทุกวันตลอดการประชุมด้วย พระธรรมโกศาจารย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย กล่าวสัมโมทนียกถาเปิดการประชุมว่า การประชุมเสวนาวิชาการพระพุทธศาสนา-คริสตศาสนาในครั้งนี้ เป็นช่วงระยะเวลาที่เหมาะสม และจะอำนวยประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติเป็นอย่างยิ่ง ในอันที่จะร่วมกันแสวงหาทางออกให้กับมนุษย์ เพราะในขณะนี้โลกของเรามีความเจริญรุ่งเรืองทางวัตถุและเทคโนโลยีเป็นอย่างมาก ในขณะที่ความเจริญทางจิตใจและศีลธรรมของคนเรากลับยังตามหลังความเจริญทางวัตถุอยู่มากพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาแห่งสันติภาพและความร่มเย็น คำสอนของพระพุทธเจ้ามุ่งกำจัดกิเลส ความเห็นแก่ตัว ความเห็นแก่ได้ ความพยาบาทเบียดเบียนซึ่งกันและกัน คริสตศาสนาเป็นศาสนาสำคัญอีกศาสนาหนึ่ง ที่พระเยซูคริสตเจ้าได้ประทานให้ชาวโลก โดยพระองค์ได้มุ่งให้ศาสนิกและมวลมนุษยชาติ มีความเป็นอยู่ร่วมกันอย่างสันติ รักใคร่กลมเกลียวกัน ดังคำสอนที่ปรากฏในพระคัมภีร์ “เขาตบแก้มซ้าย ท่านจงหันแก้มขวาให้เขาตบ” ก็เป็นประจักษ์พยานที่สำคัญในคำสอนอันยิ่งใหญ่ของพระเยซูคริสตเจ้าเช่นกัน ว่ามีความมุ่งหมายเพื่อสร้างให้เกิดสันติและความสงบแก่ชาวโลก ด้านพระครูพิพิธสุตาทร รองอธิการบดี มจร วิทยาเขตเชียงใหม่ กล่าวว่า "การประชุมเสวนาวิชาการพระพุทธศาสนา – คริสตศาสนา ได้จัดขึ้นเป็นครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๗ ณ คัสเตลกัลดอลโฟ กรุงโรม ประเทศอิตาลี ด้วยการริเริ่มของคณะโฟโคลาเร ซึ่งเป็นองค์กรฆราวาสในคริสตศาสนา นิกายโรมันคาทอลิก ซึ่งคุณแม่เคียร่า ลูบิค เป็นผู้ก่อตั้งร่วมกับเพื่อนๆ ในปี พ.ศ. ๒๔๘๖ ณ เมืองเตร้นท์ ประเทศอิตาลี จากการประชุมเสวนาวิชาการครั้งนั้นส่งผลให้ความสัมพันธ์ระหว่างพระพุทธศาสนากับคริสตศาสนาพัฒนามากขึ้น จึงมีการจัดการประชุมเสวนาในอีก ๒ ปีต่อมา ณ เมืองโอซากา ประเทศญี่ปุ่น จัดโดยองค์กรชาวพุทธ ริโช โกไซ ไก คณะสงฆ์เทนได และคณะสงฆ์นิชิเรน แห่งประเทศญี่ปุ่น เมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๙ ทำให้มีกำหนดการจัดการประชุมเสวนาวิชาการเช่นนี้ขึ้นต่อเนื่องทุก ๆ ๒ ปี ในปี พ.ศ.๒๕๕๑ ได้จัดการประชุมเสวนาวิชาการพระพุทธศาสนา – คริสตศาสนา ครั้งที่ ๓ ณ คัสเตลกัลดอลโฟ กรุงโรม ประเทศอิตาลี อีกครั้งหนึ่ง โดยคณะโฟโคลาเร และจากการประชุมครั้งนั้น ได้มีความเห็นร่วมกันว่าเป็นเวลาที่เหมาะสมที่จะจัดการประชุมเสวนา ครั้งที่ ๔ ขึ้น ที่วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหารประเทศไทย อันจะเป็นโอกาสสร้างสัมพันธภาพที่ดีระหว่างผู้นำศาสนา และศาสนิกชนในระดับนานาชาติ ด้วยลักษณะการเสวนาศาสนสัมพันธ์ด้วยชีวิต แลกเปลี่ยนเรียนรู้วัฒนธรรมที่ดีงามซึ่งกันและกัน อันจะทำให้เกิดความเข้าใจและร่วมมือกันในระหว่างศาสนาในการร่วมสร้างสังคมแห่งสันติที่แท้จริงต่อไป"
ฝ่ายประชาสัมพันธ์และเผยแผ่/รายงาน
|
แหล่งข่าว : ส่วนเทคโนโลยีสารสนเทศ | ||