ย้อนรอยสิบสองปันนา สานตำนานการศึกษาพุทธ
20 เม.ย. 53 | ข่าวมหาวิทยาลัย
490
|
ข่าวมหาวิทยาลัย |
|
ย้อนรอยสิบสองปันนา สานตำนานการศึกษาพุทธ |
วันที่ ๒๐/๐๔/๒๐๑๐ |
เข้าชม : ๖๘๔๖ ครั้ง |
ย้อนรอยสิบสองปันนา สานตำนานการศึกษาพุทธ
ดินแดนสิบสองปันนา ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นดินแดนแห่งตำนานที่หลายคนใฝ่ฝันจะได้มีโอกาสเดินทางไปสัมผัส
คณาจารย์และเจ้าหน้าที่บุคลากรมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) ได้มีโอกาสเดินทางไปยังสิบสองปันนา ด้วยการประสานงานของ ผศ.ณรงค์ โวหารเสาวภาคย์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกิจการทั่วไป มหาจุฬาฯ และอาจารย์วิมล ปิงเมืองเหล็ก ประธานสภาวัฒน ธรรมจังหวัดพะเยา
จุดประสงค์การเดินทางในครั้งนี้ เนื่องจากสำนักงานการค้ามณฑล สำนักงานท่องเที่ยวมณฑล ศาลากลางเขตปกครองตนเองสิบสองปันนา และบริษัทอสังหาริมทรัพย์ไฮ่เฉิน ได้มี หนังสือเชิญวิทยาเขตพะเยา ร่วมจัดนิทรรศการ ทางการศึกษา งานแสดงสินค้าและการท่องเที่ยวลุ่มแม่น้ำโขง ครั้งที่ 13 ณ เมืองเชียงรุ้ง เขตปก ครองตนเองสิบสองปันนา มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 9-22 เมษายน 2553
นอกจากนี้ ยังได้ติดตามความคืบหน้าหลังจากที่ได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงแลกเปลี่ยนการศึกษาพระพุทธศาสนาและวัฒนธรรม ระหว่าง มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยา ลัย วิทยาเขตพะเยา ประเทศไทย กับวิทยาลัยพระพุทธศาสนา สิบสองปันนา สาขามณฑลยูนนาน เมื่อปีพุทธศักราช 2550
มีการแลกเปลี่ยนพระสงฆ์ ครู นักศึกษา เพื่อศึกษาด้านพระพุทธศาสนาและวัฒนธรรมซึ่งกันและกัน แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมทางพระพุทธศาสนา การบริหารและการจัดการทางการศึกษาทางพระพุทธศาสนาร่วมกัน
คณาจารย์และเจ้าหน้าที่มหาจุฬาฯ ได้เดินทางมุ่งสู่เชียงรุ้ง เข้าไปที่วัดป่าเชต์ ซึ่งรัฐบาลจีนได้ทุ่มงบประมาณสร้างวัดแห่งนี้ขึ้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2548 อีกทั้งได้กำหนดให้วัดแห่งนี้ เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนาของสิบสองปันนา เป็นศูนย์กลางแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมพระพุทธศาสนาเถรวาทต่อไปในอนาคต
เห็นได้ว่ารัฐบาลจีนมองการณ์ไกลและเห็นคุณค่าของพระพุทธศาสนาที่มีอิทธิพลต่อวิถีชีวิตของชนชาวไทลื้อแห่งนี้
ในการนี้ ได้เข้ากราบนมัสการครูบาหลวงจอมเมือง ประธานวิทยาลัยพระพุทธศาสนา สิบสองปันนา สาขามณฑลยูนนาน ได้สรุปผลหลังจากได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงแลกเปลี่ยนการศึกษา พระพุทธศาสนาและวัฒนธรรม ระหว่าง มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตพะเยา ประเทศไทย กับ วิทยาลัยพระพุทธศาสนา สิบสองปันนา สาขามณฑล ยูนนาน ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อปี 2550 ซึ่งมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตพะเยา ได้จัดส่งพระนิสิต จำนวน 9 รูป เดินทางไปปฏิบัติศาสนกิจ ณ วิทยาลัยพระพุทธศาสนา สิบสองปันนา สาขามณฑลยูนนาน ณ วัดป่าเชต์ เมืองเชียงรุ้ง เขตปกครองตนเองสิบสองปันนา เป็นเวลา 6 เดือน โดยได้รับทุนสนับสนุนจากงบพัฒนาจังหวัดพะเยา
ปีการศึกษา 2551 วิทยาลัยพระพุทธศาสนา สิบสองปันนา สาขามณฑลยูนนาน ได้ส่งพระภิกษุจำนวน 5 รูป เข้าศึกษาระดับปริญญาตรี หลักสูตรพุทธศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาพระพุทธศาสนา วิชาเอกพระพุทธศาสนา ณ มหาวิทยา ลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตพะเยา
ปีการศึกษา 2552 ได้จัดส่งพระภิกษุมาเรียนเพิ่มอีก 1 รูป
พระสุนทรกิตติคุณ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายบริหาร มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตพะเยา กล่าวว่า หลังจากที่วิทยาลัยพระพุทธศาสนา สิบสองปันนา ได้ส่งพระเข้าไปศึกษาที่วิทยาเขต ปัญหาที่พบคือ การสื่อสารด้านภาษา โดยเฉพาะภาษาไทย ท่านเหล่านั้นไม่ได้ศึกษาภาษาไทยมาก่อน ดังนั้น ทางสิบสองปันนาจึงขอให้มหาวิทยาลัยได้จัดส่งอาจารย์ไปสอนภาษาไทยเพิ่มเติมก่อนที่จะจัดส่งเข้าศึกษาต่อที่ประเทศไทย และยังต้องเสริมด้านภาษาอังกฤษอีกด้วย "เมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2552 มหาจุฬาฯ วิทยาเขตพะเยา มีมติจัดตั้งศูนย์แลกเปลี่ยนพระนิสิตนักศึกษาในประเทศอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง เพื่อเป็นศูนย์กลางในการบริหารงานตามข้อตกลงดังกล่าวให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ดังนั้น การเดินทางมาครั้งนี้ จึงเป็นนิมิตหมายอันดีในการสานสัมพันธ์การศึกษาทางพระพุทธศาสนาของไทยและจีนให้มีความแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ตามนโยบายของพระธรรมโกศา จารย์ อธิการบดีมหาจุฬาฯ"
แม่น้ำโขงถือเป็นสายเลือดเส้นใหญ่ของชนชาติ 6 ประเทศ คือ จีน ลาว พม่า เวียดนาม กัมพูชา และไทย ซึ่งล้วนนับถือพระพุทธศาสนา
การที่รัฐบาลจีนลงทุนสร้างวัดให้เป็นศูนย์กลางการศึกษาแล้ว ต้องยอมรับว่า คือจุดเปลี่ยนที่สำคัญของพระพุทธศาสนาในจีน
อีกทั้งการที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้มาเชื่อมความสัมพันธ์ในครั้งนี้ จะเป็นการสร้างความมั่นคงและความยั่งยืนทางพระพุทธศาสนา
ช่วยให้สายใยแห่งความเป็นญาติระหว่างไทย-จีนให้คงอยู่ตลอดไป
ที่มา; หนังสือพิมพ์ข่าวสดรายวัน วันที่ 20 เมษายน 2553 หน้า 32
ฝ่ายประชาสัมพันธ์และเผยแผ่/รายงาน
|
|
แหล่งข่าว : ส่วนเทคโนโลยีสารสนเทศ |
|