คมชัดลึก :"โครงการพระบัณฑิตอาสาพัฒนาชาวเขา" เป็นโครงการของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) ที่นำพระสงฆ์จาริกไปเพื่อพัฒนาชุมชนบนพื้นที่สูงหรือชุมชนที่อยู่ห่างไกลจากความเจริญ ทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ อีกทั้งยังมีภารกิจรองอีกมากมายเพื่อให้ชุมชนเกิดการพัฒนาในทางที่ดี เช่น ทำให้คนในชุมชนบนพื้นที่สูงมีความสำนึกในคุณแผ่นดิน สำนึกรักในประเพณี วัฒนธรรม รวมทั้งป่าไม้ทรัพยากรธรรมชาติต่างๆ เป็นต้น
พระครูโฆสิตปริยัตยาภรณ์ (ธีรพงษ์) สิรินฺธโร รองอธิการบดี มจร.วิทยาเขตเชียงใหม่ บอกว่า การเข้าไปอยู่ของพระนักพัฒนาบนพื้นที่สูงก็เปรียบเหมือนนักวิจัยคนหนึ่งที่เข้าไปมีบทบาทมีส่วนร่วมในชุมชน คอยเก็บข้อมูลศึกษาสภาพทางด้านต่างๆ ของชุมชน ไม่ว่าจะเป็นด้านวิถีชีวิต ประเพณีวัฒนธรรม หรือสภาพทางภูมิศาสตร์ เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นสิ่งสำคัญที่จะเป็นตัวกำหนดทิศทางการพัฒนาไปในที่ถูกที่ควรและเหมาะสม นับว่าพระนักพัฒนาบนพื้นที่สูงหรือพระบัณฑิตอาสาก็มีบทบาทที่สำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาชุมชนบนพื้นที่สูง
เมื่อเข้าไปอยู่ชุมชนแล้วจำเป็นที่จะต้องพัฒนาทางด้านวัตถุบ้าง มิใช่เน้นไปในด้านใดด้านหนึ่ง เพราะการพัฒนาทางด้านวัตถุนั้นจะโดดเด่น และสามารถเห็นภาพได้จริง เห็นการเปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปกระทำ แต่ควรที่จะเป็นไปโดยพอดีพองาม ไม่เบียดเบียนกำลังศรัทธามากจนเกินไป เราต่างรู้กันดีว่าสภาพของคนในชุมชนบนพื้นที่สูงนั้น มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ลำบากยากจนอยู่แล้ว การดำเนินชีวิตของคนในชุมชนบนพื้นที่สูงนั้นควรจะเน้นให้ใช้ชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียงตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงตรัสไว้ ซึ่งจะทำให้ชุมชนพัฒนาไปอย่างมั่นคงยั่งยืน
พระบัณฑิตอาสาจะทำงาน ๓ ด้านไปพร้อมๆ กัน คือ ๑.ด้านจิตใจ โดยใช้ธรรมะชะล้างความสกปรกของจิตใจ เป็นภูมิคุ้มกันจากสิ่งยั่วยุไปในทางที่เสื่อมทั้งหลาย พระบัณฑิตอาสาเองก็เล็งเห็นปัญหานี้ จึงได้มีการทำงานในเชิงรุกโดยการเข้าไปมีส่วนร่วมในการเรียนการสอนในโรงเรียน โดยใช้ธรรมะเป็นตัวหล่อหลอมให้เด็กเยาวชน คนในชุมชนเป็นคนดี รู้จักบาปบุญคุณโทษ เกิดจิตสำนึก ละอายต่อการทำชั่ว เพื่อปลูกจิตสำนึกให้เด็กเยาวชนซึ่งจะเป็นขุมกำลังอนาคตของชาติ
๒.รักษาประเพณีวัฒนธรรมต่างๆ ของแต่ละชาติพันธุ์ ถือเป็นสิ่งมีค่าและสำคัญ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแต่ละชาติพันธ์ เป็นการสื่อถึงอารยธรรม สืบทอดกันมาตั้งแต่โบราณสู่รุ่นลูกจนถึงปัจจุบัน สิ่งเหล่านี้มีคุณค่ายากที่จะประเมินค่า อีกทั้งยังแฝงไปด้วยความรู้ภูมิปัญญาของคนในอดีต เช่น การมัดมือของชาติพันธุ์กะเหรี่ยง ซึ่งจะทำกันปีละ ๒ ครั้ง โดยความเชื่อของชาติพันธุกะเหรี่ยง คือ เป็นการเรียกขวัญให้ลูกหลานในครอบครัว ทั้งนี้หากมองลึกๆ ลงไปจะเห็นได้ว่าพิธีกรรมเหล่านี้แฝงไปด้วยภูมิปัญญา นั่นก็คือทำให้เกิดความรักความสามัคคีกันในหมู่เครือญาติ ครอบครัว ทำให้เครือญาติได้มาพบปะกัน
และ ๓.ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ต้องมีการปลูกจิตสำนึกในการอนุรักษ์ป่าไม่ธรรมชาติ เช่นเดียวกับการทำงานของพระนักพัฒนาบนพื้นที่สูงที่เองที่นำเอาพิธีกรรมทางศาสนามาเป็นส่วนในการอนุรักษ์ป่าไม้ เช่น การบวชป่า การปลูกป่าในวันสำคัญต่างๆ เป็นต้น ก็เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่ช่วยอนุรักษ์ป่าไม่ให้อยู่คู่กับชุมชน
"ปัจจุบันเองพระสงฆ์ก็ยังเป็นที่พึ่งทั้งทางกายและจิตใจ ก็เหมือนพระนักพัฒนาบนพื้นที่สูงที่ไปเป็นที่พึ่งทั้งทางกายและใจแก่คนในถิ่นทุรกันดาร แต่การเข้าไปอยู่ในอาศรมต่างๆ ในแต่ละพื้นที่ของพระบัณฑิตอาสา ขึ้นชื่อว่าเป็นพระนักพัฒนาบนพื้นที่สูงนั้นมิใช่เพียงแค่การเข้าไปอยู่เฝ้าอาศรม หรือสร้างศาสนะวัตถุจนใหญ่โตมโหฬาร โดยมิได้ใส่ใจเรื่องอื่นๆ ไม่เหลียวแลสภาพทางสังคมความเป็นอยู่ของคนในชุมชน แต่ได้ทำหน้าที่เป็นพระนักเผยแผ่โดยมิได้มีวันหยุดนิ่ง" พระครูโฆษิตปริยัตยาภรณ์ เล่า
เผยแผ่พุทธศาสนานโยบายหลัก
พระครูปลัดสุวัฒนจริยคุณ (ประสาร ) รองอธิการบดีฝ่ายประชาสัมพันธ์และเผยแผ่ มจร.บอกว่า การเผยแผ่พระพุทธศาสนาแก่ชนถิ่นทุรกันดาร ถือเป็นนโยบายหลักของโครงการพระนักพัฒนาบนพื้นที่สูงก็ว่าได้ การเข้าไปอยู่ในชุมชนแต่ละพื้นที่ การจัดกิจกรรมแต่ละอย่างก็จะมีพิธีกรรมทางพระพุทธศาสนาเข้ามาเกี่ยวข้อง เพื่อให้คนในชุมชนเริ่มรู้จักซึมซับพระพุทธศาสนาเข้าไปในจิตใจ โดยเฉพาะกิจกรรมที่เกี่ยวกับวันสำคัญของชาติ เช่น วันเฉลิมพระชนมพรรษา วันลอยกระทง เป็นต้น เหล่านี้ก็จะมีพิธีกรรมทางศาสนาเข้ามาสอดแทรก กิจกรรมที่เข้ามาสอดแทรกโดยส่วนใหญ่ก็จะเป็นการไหว้พระสวดมนต์ เจริญจิต ทำสมาธิ เป็นต้น
นอกจากการพัฒนาชุมชนแล้ว ตัวพระนักพัฒนาบนพื้นที่สูงก็ไม่ควรละเลย จริยาวัตรของตนเอง ซึ่งมีความสำคัญมากที่จะทำให้คนในชุมชนเกิดความเลื่อมใสศรัทธาในตัวพระนักพัฒนาบนพื้นที่สูง กิจวัตร ๑๐ อย่าง ที่พระพุทธองค์ทรงบัญญัติไว้ ถือเป็นบรรทัดฐานเบื้องตนที่ควรปฏิบัติ โดยเฉพาะการบิณฑบาตเลี้ยงชีพ การบิณฑบาตเป็นการโปรดสัตว์ ลดความตระหนี่ของมนุษย์ แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นการเผยแผ่พระพุทธศาสนาด้วยเช่นกัน ดังในพุทธการพระอัสชิออกบิณฑบาตด้วยอากัปกิริยาที่เรียบร้อยยังความเลื่อมใสให้เกิดแก่อุปติสสะอีกทั้งยังเป็นการสร้างความคุ้นเคยกับศรัทธา และยังได้เห็นถึงสภาพวิถีชีวิตของคนในชุมชนถือเป็นการศึกษาบริบทชุมชนไปในตัว
"แม้บทบาทของพระธรรมจาริกและพระบัณฑิตอาสาพัฒนาชาวเขา จะไม่เป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาผู้คนทั่วไปมากนัก แต่สิ่งที่ท่านเหล่านั้นได้เสียสละเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่น่ายกย่อง ชมเชยและสาธุการเป็นอย่างยิ่ง จึงขอสะท้อนภาพแห่งความยิ่งใหญ่ของผู้นำแห่งขุนเขาอันกว้างใหญ่ไพศาล ให้ผู้คนได้รับทราบเพื่อร่วมให้กำลังใจในการปฏิบัติงานของท่านตามที่ได้รับมอบหมายความไว้วางใจจากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ที่เป็นผู้สนับสนุนให้ท่านได้มีโอกาสทำงานที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ต่อไป" พระครูปลัดสุวัฒนจริยคุณ กล่าว
"แม้บทบาทของพระธรรมจาริกและพระบัณฑิตอาสาพัฒนาชาวเขา จะไม่เป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาผู้คนทั่วไปมากนัก แต่สิ่งที่ท่านเหล่านั้นได้เสียสละเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่น่ายกย่องชมเชยและสาธุการเป็นอย่างยิ่ง"
เรื่อง/ภาพ ไตรเทพ ไกรงู
ที่มา; หนังสือพิมพ์ คมชัดลึก 23 กุมภาพันธ์ 2554
ข้อมูล; ฝ่ายประชาสัมพันธ์และเผยแผ่