![]() |
ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกิจการต่างประเทศและคณะไปร่วมงานบรรจุพระบรมสารีริกธาตุและดูงานการศึกษาพระพุทธศาสนา ณ สมาคมมหาโพธิ บังกะลอร์ ประเทศอินเดีย | ||
วันที่ ๒๖/๐๓/๒๐๑๒ | เข้าชม : ๔๓๒๓ ครั้ง | |
เมื่อคืนวันที่ ๗ มีนาคม ๒๕๕๕ เวลา ๒๓.๕๐ น. พระมหาสุเทพ สุปณฺฑิโต ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกิจการต่างประเทศ พระมหากมล ถาวโร รองผู้อำนวยการสำนักหอสมุดและเทคโนโลยีสารสนเทศ พระมหาเด่นพงษ์ พุทฺธรกฺขิโต ผู้อำนวยการสำนักงานบริหาร สำนักส่งเสริมพระพุทธศาสนาและบริการสังคม และนายเลคิ สังเกย์ เดโว (Leki Sangey Devo) นิสิตชั้นปริญญาโท โครงการจัดการศึกษาหลักสูตรพระพุทธศาสนานานาชาติ (IMAP) โดยการมอบหมายจากพระครูปลัดสุวัฒนวชิรคุณ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการต่างประเทศ ได้เดินทางไปถึงสมาคมมหาโพธิ (Maha Bodhi Society:fouded by Anagarika Dharmapala in 1891) เมืองบังกะลอร์ ประเทศอินเดีย เพื่อร่วมงานคล้ายวันเกิดของพระมหาเถระพุทธรักขิตะ (Bada Bhanteji Venerable Acharya Buddharakkhita) ในวาระเจริญอายุวัฒนมงคล ๙๑ พรรษา และพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ (SAMBODHI PUJANA DHATU STUPA) ในมงคลวโรกาสวันมาฆบูชา (ช้ากว่าประเทศไทย ๑ วัน) วันที่ ๘ มีนาคม ๒๕๕๕ เวลา ๐๙.๐๐ น. คณะผู้บริหารจากมหาวิทยาลัยได้ร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เวียนเทียนรอบต้นโพธิ และพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ณ บริเวณลานโพธิภายในสมาคมมหาโพธิ จากนั้น พระมหาเถระพุทธรักขิตะได้แสดงปาฐกถาธรรมแก่พุทธศาสนิกชนประมาณ ๔๐๐ คนผู้มาร่วมงาน ต่อจากนั้น พระมหาสุเทพ สุปณฺฑิโต ได้กล่าวแสดงความเคารพและถวายมุทิตาสักการะแด่พระมหาเถระพุทธรักขิตะในนามมหาวิทยาลัยด้วย เวลา ๑๓.๐๐ น. คณะผู้บริหารจากมหาวิทยาลัย ได้เข้าพบพระมหาเถระพุทธรักขิตะเพื่อถวายหนังสือประวัติมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยและของที่ระลึกจากมหาวิทยาลัย โดยท่านได้แสดงความชื่นชมต่อความเจริญก้าวหน้าของมหาวิทยาลัย และท่านยังได้เล่าว่าท่านเป็นอาจารย์สอนพระราชรัตนโมลี (นคร เขมปาลี) อดีตอธิการบดีและประธานที่ปรึกษาอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย สมัยที่เป็นนักศึกษาอยู่มหาวิทยาลัยนาลันทา โดยกล่าวชื่นชมว่าพระมหานครเป็นพระนักศึกษาที่ดีมาก เมื่อพอสมควรแก่เวลาจึงได้กราบอำลาท่านเพื่อเตรียมเดินทางกลับประเทศไทย อนึ่ง ที่สมาคมมหาโพธิบังกะลอร์นี้ มีลักษณะเป็นวัดสำนักเรียน มีพระภิกษุสามเณรอยู่รวมกันประมาณ ๑๒๐ รูป ใช้ภาษากันนาทะ (Kannada) ส่วนใหญ่เดินทางมาจากอนุราจาลประเทศและอัสสัม ศึกษาภาษาบาลีในพระไตรปิฎกและอรรถกถาโดยใช้อักษรโรมัน และแปลเป็นภาษาอังกฤษ จึงสามารถสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดี มีการอบรมภาควิปัสสนากรรมฐานอย่างใกล้ชิดโดยพระมหาเถระพุทธรักขิตะ และมีความต้องการที่จะพัฒนาการศึกษาต่อเนื่องในระดับสูงขึ้นไป โดยประสงค์ที่จะขอช่วยเหลือทางด้านการศึกษาพระพุทธศาสนาจากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยในลำดับต่อไป คณะผู้บริหารของมหาวิทยาลัยดังกล่าวเดินทางออกจากท่าอากาศยานบังกะลอร์เวลา ๐๑.๐๐ น. ถึงประเทศไทยเวลา ๐๖.๑๐ น. ของเช้าวันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๕๕ |
แหล่งข่าว : กองวิเทศสัมพันธ์ | ||
![]() ![]() |