![]() |
พุทธิปัญญาและการปรองดอง | ||
วันที่ ๐๑/๐๖/๒๐๑๒ | เข้าชม : ๕๘๕๖ ครั้ง | |
ความขัดแย้งในสังคม และทำให้เกิดการทะเลาะ แย่งชิง ทำร้ายซึ่งกันและกัน ล้วนมาจากการที่แต่ละคนต่าง “รักตนเอง” มากกว่าที่จะเห็นอกเห็นใจ เข้าใจ และเสียสละเพื่อสังคมและคนอื่น การแก้ไขปัญหาดังกล่าว เพื่อให้เกิดการปรองดองขึ้นนั้น จึงควรนำหลักคำสอนของพระพุทธเจ้ามาแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ทั้งในระดับกายภาพ และ จิตภาพ
(พระภาวนาวิเทศ หลวงพ่อเขมธัมโม-ประเทศอังกฤษ) ในหัวข้อ “พระปัญญาตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าเพื่อประโยชน์สุขของมวลมนุษยชาติ” ได้กล่าวถึง พุทธศาสนาแพร่หลายอยู่ในหลายประเทศ ที่มีความแตกต่างกันทั้งทางด้านพื้นที่ สังคม วัฒนธรรม แต่สามารถที่จะอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืนได้กับทุกวิถีชีวิต นั่นหมายความว่า ท่ามกลางความแตกต่างของชีวิตและความเป็นอยู่ แม้จะเป็นประเทศทางตะวันตก หรือตะวันออก กระทั่งอยู่ในประเทศเดียวกัน แต่ต่างภูมิภาคกัน ก็มีความแตกต่างกันของวิถีปฏิบัติเชิงพุทธศาสนา ที่กระจายออกไปเป็นหลากหลายนิกาย แต่เมื่อทุกสาขาได้มาพบปะรวมตัวกัน ต่างก็พบว่า โดยเนื้อแท้แล้ว พุทธศาสนาล้วนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ที่ยึดหลักธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นสรณะเดียวเท่านั้น
ดังนั้น ไม่ว่าจะมีความแตกต่างกันเพียงไร การไม่ยึดมั่นถือมั่น อันเป็นกฎแห่งไตรลักษณ์ (อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา) จึงเป็นหลักธรรมที่เป็นคำตอบสำหรับการใช้ชีวิตให้เท่าทันกับโลกปัจจุบันอย่างเป็นสุข นั่นหมายความว่า ท่ามกลางความแตกต่างทางกายภาพ แม้อยู่กันคนละทิศทาง แต่มนุษย์สามารถอยู่ร่วมกันอย่างปรองดองได้ ด้วยอาศัยหลักพุทธธรรม
(พระโนริยากิ – ประเทศญี่ปุ่น) การดำรงชีวิตท่ามกลางธรรมชาติ โดยการตามดูสภาวะจิต ให้ตั้งมั่นอยู่ในสมาธิ คือวิถีแห่งเซน ที่เกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ สอดคล้องกับการดำเนินชีวิตของชาวญี่ปุ่น ที่ต้องเผชิญกับภัยธรรมชาติทั้งน้อยและใหญ่อยู่ตลอดเวลา ดังนั้น ไม่ว่าจะต้องรับมือกับเรื่องหนักหนาสาหัสเพียงไร การน้อมนำหลักพุทธศาสนาในการปรับตนเองให้เข้ากับธรรมชาติ มีเมตตาธรรมภายในใจ พร้อมจะเอื้ออาทรต่อตนเองช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์และธรรมชาติรอบตัว จึงเป็นวิถีพุทธที่สอดคล้องและเหมาะสมที่สุดกับความเป็นจริง การพัฒนาจิตให้เปี่ยมด้วยเมตตา จึงเป็นการพัฒนาในระดับจิตภาพ ที่สำคัญที่สุดของการพัฒนามนุษย์ และจะเป็นทางออกสำหรับการรับมือกับทุกปัญหาในอนาคต นั่นคือ การปรองดองที่เกิดขึ้นจากภายในตัวตน อันเป็นแก่นแท้ของมนุษย์ทุกคน และ”จิต” เป็นสิ่งเดียวที่ไม่มีความแตกต่าง จึงเป็นความปรองดองที่เกิดขึ้นได้อย่างเท่าเทียมกันโดยแท้จริง (ประเด็นภาพรวม) พระพุทธเจ้า ทรงบำเพ็ญเพียรเพื่อค้นหาทางออกในการดับทุกข์ และทรงสอนวิธีแห่งการดับทุกข์มานานกว่า ๒๖๐๐ ปี แต่มนุษย์ยังคงทำผิดซ้ำๆ และทุกข์กันอยู่ นั่นเป็นเพราะเราไม่ได้นำคำสอนของพระองค์มาใช้ และเราไม่ได้ฝึกใจของเราให้เข้มแข็งเพื่อหลุดพ้นจากกิเลสทั้งปวง
สรุปหัวข้อสำคัญ แห่งการปรองดอง ตามวิถีพุทธ · การไม่ยึดมั่นถือมั่นในตัวตน แบ่งเขา แบ่งเรา ไม่ยึดติดกับอดีต จนกล่าวโทษกันและกัน แต่ให้มองส่วนดี ที่สามารถนำมาใช้ในปัจจุบัน เพื่อพัฒนาคุณภาพของมนุษย์ · การมีเมตตาธรรม เอื้อเฟื้อ ช่วยเหลือกัน ทำให้เกิดความเห็นอกเห็นใจกัน รักผู้อื่นเช่นเดียวกับที่รักตนเอง · การมีสติ จะทำให้สามารถค้นหาเหตุแห่งความขัดแย้ง และนำไปสู่การแก้ไขปัญหาได้ · คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหมด คือคำสอนเพื่อทำให้เกิดสันติภาพของโลก
|
แหล่งข่าว : สำนักงานบริหาร สำนักส่งเสริมพระพุทธศาสนาและบริการสังคม | ||
![]() ![]() |